ทรัมป์ถูกวิจารณ์เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน



สหรัฐ 12 ม.ค.-ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรงแม้เขาจะถ่ายโอนอำนาจ การบริหารธุรกิจมูลค่ามหาศาลไปยังบุตรชายทั้ง 2 แล้ว แต่ยังมีชื่อของตัวเองเป็นเจ้าของ โดยผู้อำนายการด้านจริยธรรมของสหรัฐระบุว่า การกระทำของทรัมป์ เพียงเท่านี้ยังไม่โปร่งใสพอ และยังไม่ได้มาตรฐานสากล ที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐทุกคนเคยปฏิบัติตลอด 40 ปีที่ผ่านมา


a2 a3

นายวอลเตอร์ เช้าบ์ ผู้อำนวยการด้านจริยธรรมของสหรัฐกล่าวว่า ที่ผ่านมาประธานาธิบดีสหรัฐทุกคน ต้องประกาศขายกิจการทุกอย่างในมือให้หมด และนำเงินรายได้ทั้งหมดไปไว้ในกองทุน ที่จะมีคณะกรรมการอิสระทำหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินอย่างละเอียด ก่อนหน้านั้นทนายความ ของทรัมป์ แถลงว่า ธุรกิจ “ทรัมป์ ออร์แกนไนเซชั่น” ทั้งหมดจะถูกโอนไปให้อยู่ภายใต้การควบคุม ของนายดอนและนายอีริค ทรัมป์ บุตรชายทั้ง 2 ของนายทรัมป์

a4 a5


ทั้งนี้ “ทรัมป์ออร์แกนไนเซชั่น” มีธุรกิจในเครือนับร้อยๆอย่างทั้งอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมกอล์ฟคลับและธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย ทรัมป์ยังยอมรับเป็นครั้งแรกว่า รัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังการแฮก ข้อมูลของคณะกรรมการพรรคเดโมแครต และอีเมลของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ผ่านมาแต่ก็ยังปกป้องเป้าหมายของเขา ที่จะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย และว่ารัสเซียจะต้องเคารพประเทศสหรัฐทันทีที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และสำหรับเม็กซิโกนั้นทรัมป์กล่าวว่า คงต้องมีการคุยกันเรื่องงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดน ระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกเพื่อสกัดกั้นผู้อพยพไม่ให้ทะลักเข้าสหรัฐ

a7 a6

โดยการเจรจานี้จะมีขึ้นทันที หลังเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้ คำแถลงของทรัมป์ที่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจ ที่ไม่มีการพูดถึงนโยบายการคลัง และการลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเขามุ่งแต่โจมตีบริษัทยาที่ขายยาแพง และโจมตีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ย้ายฐานการผลิตออกจากสหรัฐ ที่ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องตั้งกำแพงภาษีรถยนต์นำเข้าสหรัฐให้แพงขึ้นเหล่านี้ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐในวันนี้อ่อนค่าลงทันทีทั้งๆที่แข็งค่ามาตลอดก่อนหน้านั้น ซึ่งคงต้องรอฟังรายละเอียดชัดๆกันอีกที ตอนที่ทรัมป์สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 20 มกราคมนี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

พีชไหว้ขอโทษ

“พีช” ยกมือไหว้คุกเข่าขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย ต่อหน้าสื่อ

“นายกเบี้ยว” พา “พีช” ลูกชาย ขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย ยกมือไหว้คุกเข่าต่อหน้าสื่อ ด้าน “กัน จอมพลัง” ดึงครอบครัวผู้เสียหายออกไม่รับคำขอโทษ พร้อมบอกแบบนี้เรียกมัดมือชก ก่อนพยายามถาม “พีช” ทำไมวันเกิดเหตุไม่เรียกรถพยาบาล “นายกเบี้ยว” ปัดตอบพร้อมดึงลูกขึ้นรถทันที

ส่งมอบรถพีชให้ตำรวจ

รถหรูของ “พีช” ถูกส่งมอบให้ พนง.สอบสวน-พบป้ายแดงถูกกฎหมาย

รถหรูป้ายแดงของ “พีช” ถูกส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ตรวจสอบเบื้องต้นป้ายสีแดงถูกกฎหมาย ได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้อง เตรียมประสานตำรวจทางหลวง นำรถกระบะและหรู ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน จ.ปทุมธานี

ตึกสตง.ถล่ม

กทม. เร่งเคลียร์ซากตึก สตง. เหลือสูง 12 เมตร

กทม. เร่งเคลียร์ซากตึก สตง. เหลือสูง 12 เมตร เดินหน้าค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่อง พร้อมเปิด Airbnb ให้ประชาชนได้รับผลกระทบเข้าพักชั่วคราว

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.