กัวลาลัมเปอร์ 7 พ.ย.- สมาร์ทโกลฟ บริษัทผู้ผลิตถุงมือยางของมาเลเซียยืนยันว่า ต่อต้านการบังคับใช้แรงงานและมุ่งมั่นดูแลสวัสดิภาพของแรงงาน หลังจากถูกสหรัฐห้ามนำเข้าถุงมือยางโดยอ้างว่าบริษัทมีการบังคับใช้แรงงาน
สมาร์ทโกลฟแจ้งว่า ได้ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานศุลากรและปกป้องพรมแดนของสหรัฐหรือซีบีพี (CBP) แล้ว และจะหาทางแก้ไข หลังจากซีบีพีมีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดี ระงับการนำเข้าสินค้าของสมาร์ทโกลฟและบริษัทในเครือโดยอ้างว่า มีหลักฐานเชื่อถือได้ว่าโรงงานผลิตของสมาร์ทโกลฟบังคับใช้แรงงาน ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตถุงมือยางมาเลเซียรายที่ 5 ที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรเพราะเรื่องสิทธิแรงงาน นับตั้งแต่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
ซูเปอร์แม็กซ์คอร์ป บริษัทมาเลเซียที่ถูกสหรัฐแบนเมื่อเดือนก่อนชี้แจงว่า จะเร่งกระบวนการที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 เรื่องการปฏิบัติตามมาตรฐานสวัสดิภาพแรงงานขององค์การแรงงานสากล ส่วนท็อปโกลฟ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในโลกของมาเลเซียถูกซีบีพีแบนเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน และได้แก้ไขประเด็นแรงงานจนซีบีพี ยกเลิกคำสั่งแบนเมื่อเดือนก่อน
มาเลเซียผลิตถุงมือยางแบบใช้แล้วทิ้งมากกว่าร้อยละ 60 ของทั้งโลก มีทั้งถุงมือยางใช้ในครัวเรือนและถุงมือยางทางการแพทย์ที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นทั่วโลกเพราะโรคโควิด-19 โรงงานในมาเลเซียร้องเรียนเรื่องขาดแคลนแรงงานตั้งแต่รัฐบาลปิดพรมแดนเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน มาเลเซียมีรายได้ต่อหัวประชากรมากเป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านไปทำงานจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย