สหรัฐ 10 ก.พ.-ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ต้องหน้าแตกรอบ 2 หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้น ที่ให้ระงับคำสั่งแบนผู้อพยพจาก 7 ชาติมุสลิม เดินทางเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่ารัฐบาลสหรัฐยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่า ผู้อพยพเหล่านี้เสี่ยงที่จะเข้ามาก่อการร้ายในสหรัฐตามที่นายทรัมป์กล่าวอ้าง
ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินพิพากษาด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 3-0 ตัดสินยืนตามคำพิพากษา ของศาลชั้นต้นโดยจะไม่มีการฟื้นคำสั่งแบนผู้อพยพ 7 ชาติมุสลิม เดินทางเข้าสหรัฐ ซึ่งนั่นหมายความว่าพลเมืองจาก อิหร่าน, อิรัก, ซีเรีย, ลิเบีย, โซมาเลีย,ซูดาน และเยเมน ที่มีวีซ่าเข้าสหรัฐอย่างถูกต้องสามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้เหมือนเดิมอีกทั้งผู้ลี้ภัยจากทั่วโลก รวมทั้งซีเรียที่มีวีซ่าสหรัฐ ก็สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้เช่นกัน หลังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์นายทรัมป์ได้ทวีตข้อความตอบโต้ศาลทันควันว่า ความมั่นคงของชาติกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง พร้อมประกาศจะยื่นฟ้องศาลสูงต่อไป โดยคำพิพากษาของ ศาลสูงจะถือเป็นการสิ้นสุดคดีนี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ยกหูโทรศัพท์สนทนากับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน โดยทรัมป์ยืนยันกับนายสีว่าสหรัฐจะเคารพ และยึดมั่นต่อนโยบายจีนเดียว ที่เป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนตั้งแต่ในอดีต ซึ่งประธานาธิบดีสียินดีอย่างยิ่งต่อท่าทีของนายทรัมป์ในครั้งนี้ และยืนยันว่าสหรัฐและจีนพร้อมร่วมมือกันทุกด้าน เพื่อผลประโยชน์ของ 2 ประเทศ และผลประโยชน์ต่อโลก.-สำนักข่าวไทย