แอตแลนตา 30 ก.ย.- เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) วิเคราะห์สิ่งที่ได้และไม่ได้จากการโต้วาทีหรือดีเบตนัดแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต รวมทั้งนายคริส วอลเลซ ผู้ดำเนินรายการ
นายคริส ซิลลิซซา บรรณาธิการอำนวยการซีเอ็นเอ็นใช้คำว่า น่าสยดสยอง (horrendous) จากนั้นแจกแจงสิ่งที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดจากการดีเบตครั้งนี้ เขาขึ้นหัวข้อว่า “สิ่งที่ได้จากการดีเบต” แล้ววงเล็บอธิบายว่า จงใจให้หัวข้อนี้ว่าง เพราะเป็นการดีเบตที่แย่อย่างแท้จริง เพราะผู้ชมไม่ได้รู้เรื่องผู้สมัครทั้งสองคนและสิ่งที่พวกเขาจะทำหากได้รับโอกาสให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเวลา 4 ปี เป็นดีเบตที่แย่ที่สุดเท่าที่เขาทำข่าวดีเบตมาตลอด 20 ปี ซ้ำยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ชาวอเมริกันกว่า 200,000 คนเสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในสิ้นปีนี้
ส่วนหัวข้อ “สิ่งที่ไม่ได้จากการดีเบต” ซิลลิซซาระบุว่า ทรัมป์ต้องใช้การดีเบตปรับทิศทางการแข่งขัน ไม่เช่นนั้นจะพ่ายให้แก่ไบเดนอย่างยับเยิน แต่การดีเบตตลอด 90 นาทีไม่เห็นสิ่งนี้ ทรัมป์ครองเวทีเพราะใช้การข่มเหง พูดแทรก หลอกล่อทั้งไบเดนและวอลเลซตลอดเวลา วิธีนี้อาจได้ใจผู้สนับสนุน แต่ทำให้การดีเบตไม่น่าดู ขณะที่วอลเลซ ผู้ดำเนินรายการที่เขาเคยชมว่าเป็นนักสัมภาษณ์การเมืองที่ดีที่สุดคนหนึ่งกลับไม่สามารถควบคุมเวทีได้ ปล่อยให้ผู้สมัครทั้งสองคนตะโกนและขัดจังหวะกัน ไม่สามารถจี้ให้ทั้งคู่พูดเรื่องนโยบายที่คนอยากฟัง ส่วนไบเดนทั้งที่รู้ล่วงหน้าว่า จะมีคำถามเรื่องเหตุใดไม่ควรแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาก่อนมีประธานาธิบดีคนใหม่ กลับตอบวกไปเวียนมา ที่น่าผิดหวังคือไบเดนบอกให้ทรัมป์หุบปากที่พูดแทรกและเรียกทรัมป์ว่าเป็นตัวตลก ไม่สอดคล้องกับที่ไบเดนย้ำว่าจะทำให้ทำเนียบขาวมีมารยาทและมีความเป็นผู้นำอีกครั้ง บรรณาธิการผู้อำนวยการซีเอ็นเอ็นเตือนว่า ต้องคุยกันอย่างจริงจังแล้วว่าการจัดดีเบตที่เหลืออีกสองครั้งจะเป็นภัยแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ดีเบตครั้งนี้ไม่ได้ทำเขาโกรธ แต่ทำให้เศร้าใจ เพราะการเมืองควรจะดีกว่านี้.- สำนักข่าวไทย