ยุโรป 24 มิ.ย.- เยอรมนีต้องล็อกดาวน์เมืองทางตะวันตกของประเทศอีกครั้ง หลังพบการติดเชื้อที่โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนความเสี่ยงจากการผ่อนปรนล็อกดาวน์
ทางการเยอรมนีต้องสั่งล็อกดาวน์เมืองทางตะวันตกของประเทศ หลังพบคนงานกว่า 1,500 คนในโรงงานแปรรูปเนื้อแห่งหนึ่งติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ประชากรในเมืองราว 360,000 คน ต้องเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งไปจนถึงวันที่ 30 เดือนนี้ นับเป็นเมืองแรกของเยอรมนีที่ต้องกลับไปสู่มาตรการล็อกดาวน์ หลังเริ่มผ่อนปรนการล็อกดาวน์ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ส่วนที่อังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้ประกาศผ่อนปรนการล็อกดาวน์ครั้งสำคัญ โดยเปิดทางให้ธุรกิจหลายประเภทกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร บาร์ โรงแรม ร้านเสริมสวย โรงภาพยนตร์ และ พิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังผ่อนปรนกฎระเบียบในเรื่องของการเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย อย่างไรก็ดี นายแพทริค วอลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลอังกฤษ เตือนว่า การระบาดยังไม่จบสิ้น ผู้คนยังมีความเสี่ยงและต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของทางการอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป
ขณะเดียวกัน สาธารณสุขในแคว้นเวลส์ของอังกฤษ ก็กำลังพิจารณาล็อกดาวน์เกาะแองเกิลซี หลังพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่โรงงานแปรรูปเนื้อแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพนักงานเกือบ 600 คน และพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม และตอนนี้โรงงานได้สั่งหยุดการผลิตชั่วคราว
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาติ หรือ ยูเอ็น เผยประชาคมโลกขาดความร่วมมือกันในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกับเตือนว่า นโยบายเอาตัวรอดเพียงลำพังของหลายประเทศ จะไม่สามารถเอาชนะไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ และสิ่งที่สำคัญตอนนี้ก็คือ ทำให้ประเทศต่างๆ เข้าใจว่าการที่ต่างคนต่างทำต่างคนต่างสู้กับไวรัส จะยิ่งทำให้การแพร่ระบาดอยู่นอกเหนือการควบคุมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย