เทลอาวีฟ 10 มิ.ย.- วิกฤติโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อาจทำให้แอลอัล สายการบินแห่งชาติของอิสราเอลต้องกลับไปเป็นของรัฐอีกครั้ง หลังจากแปรรูปเป็นเอกชนได้ไม่ถึง 20 ปี
สหภาพพนักงานแอลอัลเผยว่า ไม่คัดค้านหากรัฐจะเข้ามาควบคุม สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้สายการบินสามารถดำเนินการได้ต่อไป ในยามที่สายการบินทั่วโลกต้องจอดและขอความช่วยเหลือจากรัฐ แอลอัลและบริษัทโฮลดิงส์ผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ระหว่างเจรจาขอความช่วยเหลือจากกระทรวงคลังที่เสนอค้ำประกันสินเชื่อธนาคาร 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,785 ล้านบาท) แลกกับการที่แอลอัลต้องออกหุ้นมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,670 ล้านบาท) รัฐบาลจะรับซื้อหุ้นเหล่านี้หากไม่มีคนซื้อ
แอลอัลแจ้งผลประกอบการขาดทุนติดต่อกันมาสองปีแล้ว และแจ้งว่าเสี่ยงล้มละลายหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐหลังจากที่ต้องจอดเครื่องบินเพราะอิสราเอลปิดพรมแดนควบคุมโรคโควิด-19 และเลิกจ้างพนักงานส่วนใหญ่ไปแล้วจากที่มีอยู่ทั้งหมด 6,500 คน ด้านประธานสมาคมนักบินสายการบินอิสราเอลเผยว่า รัฐบาลได้แสดงท่าทีแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้แอลอัลล้มเพราะเป็นสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์ เป็นช่องทางสำคัญที่อิสราเอลใช้ติดต่อกับโลกภายนอก เพราะที่ผ่านมาสายการบินนานาชาติส่วนใหญ่งดเที่ยวบินเข้าออกอิสราเอลในช่วงที่เกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
นายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลเป็นผู้ผลักดันให้ขายแอลอัลและบริษัทอื่น ๆ ของรัฐในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังปี 2546-2548.- สำนักข่าวไทย