มอสโก 5 มิ.ย. – โฆษกหญิงของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยวันนี้ว่า รัสเซียสามารถควบคุมน้ำมันปริมาณมหาศาลที่รั่วไหลลงในแม่น้ำในเขตอาร์กติกเซอร์เคิลได้เรียบร้อยแล้ว
โฆษกหญิงของคณะทำงานที่รับผิดชอบในการกำจัดคราบน้ำมันกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถหยุดการกระจายของผลิตภัณฑ์น้ำมันได้ โดยสามารถควบคุมได้ทุกทิศทางและขณะนี้คราบน้ำมันไม่ได้กระจายไปที่ใดอีกต่อไปแล้ว นักสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า คราบน้ำมันที่รั่งไหล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขั้นในเขตอาร์กติก เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคลังเก็บน้ำมันดีเซล ของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งนอกเมืองโนริลสค์ ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือของแคว้นไซบีเรียเกิดพังลงมา ทำให้น้ำมัน 15,000 ตัน รั่วไหลลงสู่แม่น้ำและอีก 6,000 ตันไหลลงพื้นดิน โรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นของบริษัทในเครือของบริษัทโนริลสค์ นิกเกิ้ล ซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะรายใหญ่ของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น กรีนพีซ รัสเซีย ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ครั้งแรกในเขตอาร์กติกและเทียบเท่ากับเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมันเอ็กซอน วาลเดส นอกชายฝั่งอลาสกา เมื่อปี 1989 แม่น้ำอัมบาร์นายา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้ ไหลลงสู่ทะเลสาบพยาซิโน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของคาบสมุทรไทเมียร์ เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการควบคุมน้ำมันด้วยการใช้ทุ่นกักเก็บน้ำมันเอาไว้ เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันไหลลงไปในทะเลสาบและใช้เครื่องมือในการสูบน้ำมันขึ้นจากผิวน้ำ โดยสามารถสูบน้ำมันขึ้นมาได้แล้วมากกว่า 200 ตัน.-สำนักข่าวไทย