ซิดนีย์ 19 พ.ค.- ออสเตรเลียยืนยันว่า ไม่ได้ทำสงครามการค้ากับจีน และไม่คิดตอบโต้จีนที่เก็บภาษีข้าวบาร์เลย์นำเข้าจากออสเตรเลียในอัตราสูงถึงร้อยละ 80.5 หลังจากออสเตรเลียยืนกรานให้เปิดการสอบสวนสากลเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ระบาดจากจีน
จีนประกาศเมื่อค่ำวานนี้ว่า จะเก็บภาษีทุ่มตลาดกับข้าวบาร์เลย์นำเข้าจากออสเตรเลียตามที่ผลการสอบสวนนาน 18 เดือนระบุว่าทำให้ตลาดจีนเสียหาย สูงกว่าที่ทางการจีนเคยเสนอเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 56.14 ทำให้ถูกมองว่าโยงไปถึงเรื่องที่ออสเตรเลียสนับสนุนให้สอบสวนเรื่องโควิด-19 อย่างไรก็ดี นายเดวิด ลิตเติลพราวด์ รัฐมนตรีเกษตรออสเตรเลียยืนยันกับสื่อออสเตรเลียวันนี้ว่า ไม่ใช่การทำสงครามการค้า เพราะทุกวันนี้จีนก็ยังต้องการสินแร่เหล็กจากออสเตรเลียมากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือจีนดำเนินการตามที่เชื่อว่าออสเตรเลียทำการค้าไม่เป็นธรรมเท่านั้น แต่จะเป็นผลเสียต่อโรงกลั่นและผู้บริโภคในจีนที่ต้องจ่ายแพงขึ้น หรือได้สินค้าคุณภาพต่ำจากประเทศอื่นแทน ขณะที่ทางการออสเตรเลียจะพยายามอย่างหนักเพื่อหาตลาดใหม่ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวบาร์เลย์ในประเทศก่อนที่จะเริ่มการเก็บเกี่ยวในอีกหลายเดือน
นักวิชาการศูนย์เศรษฐศาสตร์และธุรกิจสากลจีน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์มองว่า หากต้องการสกัดไม่ข้าวบาร์เลย์ออสเตรเลียเข้าจีนก็ต้องเก็บภาษีสูง ลำพังอัตราร้อยละ 56.14 ตามที่เสนอตอนแรกก็ถือว่าสูงมากแล้ว จึงเห็นได้ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับท่าทีของออสเตรเลียที่ต้องการให้สอบสวนเรื่องโควิด-19 ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรใหญ่ในออสเตรเลียแย้งว่า ข้อกล่าวหาเรื่องข้าวบาร์เลย์ออสเตรเลียทุ่มตลาดด้วยการขายต่ำกว่าราคาในจีนนั้นเป็นเรื่องไร้มูล เพราะเกษตรกรออสเตรเลียได้รับการอุดหนุนน้อยที่สุดในโลกอยู่แล้ว จึงไม่สามารถทุ่มตลาดได้ แต่ละปีออสเตรเลียส่งออกข้าวบาร์เลย์ไปจีนมูลค่า 917 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 19,166 ล้านบาท) หรือเกือบครึ่งหนึ่งของที่ส่งออกทั้งหมด.- สำนักข่าวไทย