ฮ่องกง 9 พ.ค.- คณะนักวิจัยในฮ่องกงพบว่า การใช้ยาต้านไวรัส 3 ขนานร่วมกันปลอดภัยและให้ผลดีในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากกว่าการใช้ยาขนานเดียวที่ดูเป็นความหวังสำคัญในการรักษาโรคนี้
วารสารแลนเซ็ตฉบับวันเสาร์เผยแพร่ผลการศึกษาที่นำโดยคณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกงว่า จากการทดลองรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการน้อยถึงปานกลางด้วยการให้ยาอินเตอเฟอรอนเบต้า-1บี ยาโลพินาเวียร์-ริโทนาเวียร์ และยาไรบาวิรินร่วมกันแต่เนิ่น ๆ พบว่าสามารถลดปริมาณเชื้อไวรัสโคโรนาในร่างกายผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดอาการป่วย และลดความเสี่ยงแพร่เชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์เพราะลดระยะเวลาในการขับเชื้อซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตรวจพบเชื้อในผู้ป่วยและเชื้ออาจแพร่ไปยังผู้อื่นได้ วิธีนี้ดูเหมือนปลอดภัยและให้ผลดีกว่าการใช้ยาโลพินาเวียร์-ริโทนาเวียร์เพียงขนานเดียว ยาอินเตอเฟอรอนเบต้า-1บีเป็นยารักษาโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งหรือเอ็มเอส (MS) ยาโลพินาเวียร์-ริโทนาเวียร์เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ส่วนยาไรบาวิรินมักใช้รักษาโรคตับอักเสบซี
คณะนักวิจัยทดลองกับผู้ป่วยผู้ใหญ่ 127 คนที่เข้าโรงพยาบาลรัฐหนึ่งในหกแห่งระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ถึง 20 มีนาคม ผู้ป่วย 86 คนรับยา 3 ขนาน ผู้ป่วยอีก 41 คนรับยาโลพินาเวียร์-ริโทนาเวียร์ขนานเดียว กลุ่มแรกมีปริมาณเชื้อไวรัสลดลงอย่างเห็นผลภายใน 7 วัน ขณะที่กลุ่มหลังต้องใช้เวลาประมาณ 12 วัน กลุ่มแรกมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนภายใน 4 วัน ส่วนกลุ่มหลังดีขึ้นภายใน 8 วัน กลุ่มแรกพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 9 วัน ขณะที่กลุ่มหลังต้องพักเฉลี่ย 14 วันครึ่ง อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัยชี้ว่าจำเป็นต้องทดลองกับคนไข้กลุ่มใหญ่กว่านี้เพื่อยืนยันว่าการใช้ยา 3 ขนานร่วมกันจะให้ผลกับผู้ป่วยอาการหนักหรือไม่.-สำนักข่าวไทย