รวบหนุ่มจีนใช้แอปฯ หาคู่ ตระเวนหลอกฉกทรัพย์เหยื่อ

20 มี.ค. – เตือนภัยแอปฯ หาคู่ หลังตำรวจเชียงใหม่ ตามรวบหนุ่มจีนวัย 31 ปี คาสนามบิน ก่อเหตุลวงเหยื่อผ่านแอปฯ หาคู่ เข้าโรงแรมฉกทรัพย์ ก่อนหลบหนี สอบสวนพบตระเวนก่อเหตุมาแล้วหลายประเทศแถบเอเชีย


หลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจ ตม.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จับหนุ่มชาวจีน วัย 31 ปี คาสนามบิน ขณะกำลังขึ้นเครื่องบินเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งหนุ่มจีนรายนี้ก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยว 2 ราย รายแรกเป็นชาวจีน วัย 49 ปี สูญเงินสด 29,000 บาท บัตรเครดิต 2 ใบ หนังสือเดินทาง โทรศัพท์มือถือ ส่วนเหยื่อรายที่ 2 เป็นหนุ่มชาวไอร์แลนด์เหนือ สูญเงินสด 2,000 บาท บัตรเครดิต 1 ใบ โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง หลังก่อเหตุรีบวิ่งหนีออกจากโรงแรมย่านคูเมือง

พบข้อมูลน่าตกใจ ตระเวนก่อเหตุมาหลายประเทศแล้ว
ตำรวจเปิดเผยว่า หลังจับกุมนาย Zhou Kaiyuan สารภาพว่าก่อเหตุที่ จ.เชียงใหม่ รวม 2 ครั้ง และกำลังจะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อก่อเหตุอีก โดยพฤติกรรมจะใช้แอปฯ หาคู่ชักชวนผู้ชายที่มีรสนิยมไม้ป่าเดียวกัน ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นชักชวนเข้าห้องพักโรงแรมของเหยื่อ และอาศัยเหยื่อเผลอเข้าห้องน้ำ ขโมยทรัพย์สิน


ทั้งนี้ ในประเทศจีนไม่ยอมรับบุคคลเพศที่สาม ทำให้แสดงออกไม่ค่อยได้ จึงเดินทางไปประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งไต้หวัน ฮ่องกง ก่อเหตุสลับไปมา และหลบหนีมาก่อเหตุในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 16 และ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ลักทรัพย์ชาวจีนด้วยกัน และนักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์เหนือที่มีรสนิยมเหมือนกัน โดยใช้แอปฯ หาคู่ ชักชวนกันไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้เหยื่อตายใจตามกลับมาที่ห้องพัก ก่อนอาศัยจังหวะเหยื่อเผลอเข้าห้องน้ำลักทรัพย์ และหลบหนีออกจากโรงแรม

เหตุดังกล่าวส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัด และผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติเข้าแจ้งความ ตำรวจจึงออกแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบตัวผู้ก่อเหตุกำลังหลบหนีขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเชียงใหม่ เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และจะควบคุมตัวส่งศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.)

ตร.ไซเบอร์ เตือนภัยใช้แอปฯ หาคู่ มักมีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่
ด้านผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมิจฉาชีพรายบุคคล มักแฝงตัวเข้าปักหมุดในแอปฯ หาคู่ ที่เป็นที่นิยม โดยใช้โปรไฟล์และข้อมูลปลอม หากเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์ เมื่อเลือกเหยื่อได้แล้วมิจฉาชีพจะชักชวนเหยื่อออกมาสนทนากันส่วนตัวผ่านไลน์ เมื่อเหยื่อหลงรักหรือคุ้นเคยกับมิจฉาชีพมากขึ้น การหลอกจะเพิ่มความเข้มขึ้น และมักจะมาโดยการหาวิธีหลอกให้เหยื่อลงทุนในรูปแบบต่างๆ โดยจะดึงเหยื่อเข้ากลุ่มไลน์ที่ 2 ซึ่งมีสมาชิกหลายคน อ้างว่าเป็นผู้ชำนาญการด้านการลงทุน หรือสมาชิกนักลงทุนด้วยกัน ทำให้เหยื่อยิ่งเชื่อสนิทใจ หลงลงทุนจากปริมาณน้อยๆ กว่าจะรู้ว่าถูกหลอก ก็อาจต้องสูญเงินจนหมดตัว


ส่วนการหลอกของมิจฉาชีพที่เป็นรายบุคคลอาจมีการนัดพบกันนอกรอบตามสถานที่หรือโรงแรม เพื่อประสงค์ต่อร่างกายหรือประสงค์ต่อทรัพย์และเพศ ทั้งนี้ การหลอกผ่านแอปฯ หาคู่ เป็นการอัปเกรดขึ้นมา จากเดิมเป็นการหลอกในรูปแบบ Romance Scam เตือนประชาชนหากคิดใช้แอปฯ หาคู่ เพื่อพบหาคนรักหรือตามหาคนจริงใจ ให้ตระหนักเสมอว่าในแอปฯ หาคู่ มีมิจฉาชีพเข้าไปแฝงตัวอยู่ อย่าคิดว่าแอปฯ จะกลั่นกรองเอาเฉพาะคนดีๆ เข้ามาใช้แอปฯ

ทั้งนี้ คดีที่เกี่ยวข้องกับแอปฯ หาคู่ ในส่วนของตำรวจไซเบอร์ ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 65-19 มี.ค. 68 มีการรับแจ้งควา รวม 1,415 คดี ความเสียหายรวมกว่า 350 ล้านบาท

นอกจากนี้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี (บก.ปอท.) ยังแนะวิธีสังเกต พฤติกรรมที่มักเป็นมิจฉาชีพบนแอปฯ หาคู่ คือมีโปรไฟล์ที่โดดเด่นและดีจนเกินเหตุ น่าดึงดูดใจในทุกๆ ด้าน เป็นหนึ่งในเป้าหมายอันดับต้นๆ ที่หลอกล่อให้ผู้คนตกหลุมรักทันที เนื่องจากบุคคลจำนวนมากมักหลงใหลในคุณสมบัติ หน้าตาดี มีเสน่ห์ มาจากครอบครัวดี การศึกษาสูง พูดจาสุภาพ และปฏิบัติต่อผู้อื่นเสมือนเป็นบุคคลสำคัญจนคนคนนั้นหลงใหลในทันที

หลอกให้เสียเงินด้วยข้ออ้างสารพัด เช่น แสร้งทำเป็นมีสิทธิได้รับมรดก อ้างว่าส่งสินค้ามูลค่าสูงจากต่างประเทศมาให้ แต่กลับขอค่าขนส่งหรือภาษี แสร้งทำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วนและสิ้นหวัง เพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ และการชักชวนให้ส่งเงินมาช่วยเหลือ

วิธีเช็กคนที่เข้ามาสนใจ แบบไหนส่อแววเป็นมิจฉาชีพ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล โดยค้นหา Google หรือแพลตฟอร์มโซเชียล ดูชื่อ รูปลักษณ์ ตรงกับโปรไฟล์ในแอปฯ หาคู่หรือไม่ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชี เช่น ระยะเวลาการใช้งาน พฤติกรรมการโพสต์ กลุ่มเพื่อน รูปถ่ายส่วนตัว หากมีเพื่อนน้อย มีกิจกรรมบนโซเชียลเล็กน้อย ควรระมัดระวัง เนื่องจากอาจเป็นโปรไฟล์ปลอม อย่าไว้วางใจหรือส่งเงิน อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าในโลกออนไลน์ รวมถึงแอปฯ หาคู่ ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขบัตรเครดิต บัตรเดบิต รายละเอียดบัตร ATM เลขบัญชีธนาคาร เลขประจำตัวประชาชน

หลีกเลี่ยงการแบ่งปันภาพถ่ายส่วนตัวกับใคร ไม่แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เนื่องจากมิจฉาชีพอาจใช้ข้อมูลนี้ในทางที่ผิด เพื่อสร้างความเสียหายให้กับคุณ ทั้งนี้ ต้นตอของการถูกหลอกมักเกิดจากการไว้วางใจรูปลักษณ์ภายนอกมากเกินไป ส่งผลให้ผู้ที่ไม่สงสัยจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ ดังนั้น ควรตรวจสอบใครก็ตามที่คุณสนใจอย่างละเอียด เพราะคนหลอกลวงจำนวนมาก เชี่ยวชาญในการปิดบังเจตนาที่แท้จริง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]