เตือนผู้ขับขี่รถยนต์ใช้ “หัวเข็มขัดนิรภัยหลอก” อันตรายถึงชีวิต มีโทษปรับ

หัวเข็มขัดนิรภัยหลอก

ทำเนียบ 21 มี.ค.-รัฐบาลห่วงใยความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน เตือนผู้ขับขี่รถยนต์ใช้ “หัวเข็มขัดนิรภัยหลอก” อันตรายถึงชีวิต มีโทษปรับ ย้ำปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในชีวิต

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจให้ประชาชนเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ขับขี่ยานพาหนะรถยนต์มักมีการละเลยในเรื่องของการคาดเข็มขัดนิรภัย ด้วยเหตุผลที่ว่า เร่งรีบในการเดินทาง ไม่ชินกับการคาดเข็มขัด อีกทั้ง ยังพบการใช้อุปกรณ์เสริมที่มีลักษณะเหมือนหัวเสียบนิรภัยของจริงแต่ไม่มีสาย “หัวเข็มขัดนิรภัยหลอก” ในการคาดเพื่อตัดเสียงเตือน ไฟกะพริบเตือน หรือสัญญาณเตือนต่าง ๆ หลอกระบบความปลอดภัยของตัวรถว่ามีการคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว


นายคารม กล่าวว่า ด้วยพฤติกรรมการละเลยการใช้อุปกรณ์เสริมดังกล่าว ถือเป็นความประมาทในการขับขี่และเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่อย่างยิ่ง โดยเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะไร้การป้องกันทำให้มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนที่คาดเข็มขัดอยู่ในรถถึง 6 เท่า อีกทั้ง การไม่คาดเข็มขัดนิรภัยและการใช้หัวเข็มขัดนิรภัยหลอก ถือเป็นความผิดมีโทษทางกฎหมายต่อมาตรา 123 ภายใต้บังคับมาตรา 123/1 ในขณะขับรถยนต์ ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งแถวตอนหน้า และที่นั่งแถวตอนอื่น จะต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่โดยสารรถยนต์ เว้นแต่ มีเหตุผลด้านสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท

“รัฐบาลขอย้ำและเตือนประชาชนหากรู้ว่าจะต้องมีการขับขี่หรือเดินทาง ทุกครั้งก่อนขับขี่ควรมีการเตรียมพร้อมของยานพาหนะให้มีความพร้อมก่อนเดินทางเสมอ และขอให้ประชาชนทุกคนเดินทางด้วยความปลอดภัยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง อีกทั้งต้องมีการตรวจและเช็กการคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนออกเดินทางเสมอ สำหรับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ควรสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อให้การเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย” นายคารม กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]