รอง ผบก.ป.เผยพร้อมออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี

กองปราบฯ 20 มี.ค. – รอง ผบก.ป. ระบุจ่อพิจารณาออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนผู้ครอบครองทรัพย์สิน หากไม่ส่งทรัพย์สินคืนเป็นของกลาง เสี่ยงผิด รับของโจร


พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เปิดเผยความคืบหน้าการเรียกสอบปากคำทนายความของ “มาดามเมนี่” เพิ่มเติมว่า วันนี้จะเป็นการสอบปากคำในทุกประเด็นที่ยังไม่ครบถ้วน เพื่อให้ชัดเจนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นมาอย่างไร โดยเบื้องต้นเป็นการสืบสวนคดียักยอกทรัพย์ก่อน และต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบพยานหลักฐานและเส้นทางการเงินก่อน เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ และยืนยันว่าคดีนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียก ดิว แต่อย่างใด

ส่วนคดีนี้จะเป็นคดีอาญา หรือคดีแพ่งนั้น ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน เพราะกรณีเบียดบังทรัพย์ของผู้อื่นไปเป็นของตนเอง หรือของผู้อื่นโดยทุจริต ก็จะเข้าเรื่องการยักยอกทรัพย์ ซึ่งเป็นคดีอาญา แต่คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ยอมความได้ หากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ หรือคืนทรัพย์กันเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเป็นคดีที่มีอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี จึงต้องออกเป็นหมายเรียกก่อน เว้นแต่หากได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง หรือผู้ต้องหาหลบหนีไปแล้ว ก็สามารถออกหมายจับได้เลย


ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ตอนนี้ไปอยู่กับบุคคลที่ 3 แล้วนั้น จะเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาที่เจตนา ว่าบุคคลที่ 3 รู้หรือไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ของบุคคลอื่นที่ได้ไปโดยการลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง หรือผิดกฎหมาย ก็จะเข้าข่ายเรื่องรับของโจรได้ โดยหากตำรวจทราบว่าทรัพย์ของผู้เสียหายไปอยู่กับบุคคลใด ก็สามารถติดตามไปอายัดทรัพย์สินดังกล่าวได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่กับบุคคลสำคัญระดับสูงแค่ไหนก็ตาม เพราะทุกคนเท่าเทียมกัน และถือว่าเป็นทรัพย์ที่ได้ไปจากการกระทำความผิด เป็นของกลางในทางคดี หรือหากบุคคลที่เก็บทรัพย์สินไว้ รู้ข่าวแล้วว่าเป็นทรัพย์สินของผู้เสียหาย พยายามยักย้ายถ่ายเท หรือปกปิดทรัพย์สิน ก็อาจเข้าข่ายรับของโจรได้เช่นกัน ดังนั้นเส้นแบ่งของข้อหารับของโจร ก็ต้องดูพฤติการณ์ว่า รู้หรือไม่ รู้แล้วแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างไร หรือรู้แล้วพยายามปิดบังซ่อนเร้นทรัพย์ ดังนั้นผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินดังกล่าวไว้ ไม่ต้องถึงขั้นรอให้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับบุคคลใด สามารถประสานตำรวจนำทรัพย์สินมามอบให้เป็นของกลางทางคดีได้เลย

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีบุคคลใดประสานแสดงความบริสุทธิ์ใจมาว่าครอบครองทรัพย์สินของผู้เสียหายอยู่ ทั้งนี้ ต้องขอสอบปากคำบุคคลปลายทางที่รับทรัพย์สินดังกล่าวไปก่อน และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้รับของด้วย และหากบุคคลที่รับทรัพย์ไป จ่ายเงินค่าทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ก็สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องคดีทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากดิวได้

ส่วนทนายความของดิว ทราบว่าได้ประสานจะเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ โดยคาดว่าเป็นการประสานงานเรื่องต่าง ๆ ก่อน เพราะตัว ดิวก็ยังไม่ได้มาพบตำรวจในวันนี้ ส่วนกระแสข่าวที่กำลังขุดคุ้ยตั้งข้อสงสัยว่าอาจทำธุรกิจผิดกฎหมาย และตำรวจจะมีการขยายผลตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยหรือไม่นั้น ทาง พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยเพียงว่า ขอตรวจสอบคดียักยอกทรัพย์นี้ก่อน


ต่อมานายนิติศักดิ์ มีขวด หรือทนายเอี้ยง ทนายความของดิว อริสรา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ คุณดิว อริสรา ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในรายการโหนกระแสและรับทราบเมื่อวานนี้ว่าทางฝั่งของเมย์ วาสนา ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามแล้ว จึงได้พูดคุยกับตนและได้ข้อเท็จจริงยืนยันว่า การเดินทางไปไต้หวันไม่ใช่การหลบหนีตามที่มีกระแสข่าว ซึ่งได้เดินทางไปก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ทั้งนี้ ดิวไม่ทราบมาก่อนว่าถูกแจ้งความ เมื่อทราบเรื่องก็ได้รีบประสานให้ตัวเองดำเนินการยื่นหนังสือกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและยืนยันว่าที่ไปต่างประเทศ เพราะต้องการที่จะไปดูแลลูก ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีคดี รวมทั้งยืนยันว่า หลังจากนี้ยินดีที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนและให้ความร่วมมือทุกประการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ส่วนข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากการที่พูดคุยเป็นไปตามที่ได้ชี้แจ้งในรายการคือ ทางดิวต้องการยืมทรัพย์สิน ตามที่ตกลงกันก็คือให้นำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้แก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น แต่เกิดข้อผิดพลาดเนื่องจากเจ้าหนี้ของคุณดิวต้องการเงินสด ไม่ได้ต้องการทรัพย์สิน จึงจำเป็นต้องนำทรัพย์สินไปจำนำเพื่อให้ได้เงินสด แต่ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขที่ทางผู้เสียหายให้ทรัพย์สินยืมไป และทางคุณเมย์ก็รับทราบเรื่องที่มีการนำทรัพย์สินไปจำนำแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่จะรับทราบก่อนหรือหลังรับจำนำ เรื่องนี้ส่วนตัวไม่ทราบ

ทางดิวไม่มีเจตนาที่จะฉ้อโกงและทำให้ทรัพย์สินสูญหาย เพียงแต่ว่าต้องการจะแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด อีกทั้งร้านรับจำนำก็รับจำนำอย่างถูกต้อง ไม่มีเจตนาที่จะเบียดบังทรัพย์สินแต่อย่างใด ส่วนที่ว่าทำไมทรัพย์สินบางรายการมีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านบาท แต่ทำไมนำมาจำนำในราคาแค่ 8 ล้านบาท ก็เป็นเพราะคุณดิวต้องการจะจำนำในราคาที่มาทบกับหนี้ที่มีอยู่ 21 ล้านบาทเท่านั้น ยอมรับว่า เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่มีเงินสด จึงต้องให้ของมายืมแทน ซึ่งเชื่อว่าหากให้ยืมเงินสดแต่แรก ก็จะไม่เกิดปัญหานี้

ทนายเอี้ยง ยืนยันว่า ทางคุณดิวพร้อมที่จะรับผิดชอบและชดใช้ในหนี้สินและเงินที่ได้รับจากการจำนำทั้งหมด รวมทั้งพร้อมที่จะพูดคุยทั้ง 3 ฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องการที่จะเคลียร์ปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว ขณะนี้ก็กำลังพูดคุยหารือกับผู้ใหญ่เพื่อให้ได้เงินมาชดใช้หนี้ ส่วนเรื่องรัฐมนตรีที่มามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น เรื่องนี้ไม่ทราบและยังไม่ได้พูดคุยกับคุณดิว

สำหรับเรื่องทางคดีนั้นต้องขึ้นอยู่กับทางพนักงานสอบสวนว่าจะพิจารณาว่าเป็นเพียงแค่เรื่องแพ่งหรือเป็นเรื่องการดำเนินคดีทางอาญา ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ยืนยันว่าจะไม่มีการนำข้อกฎหมายมาต่อสู้เพื่อเอาชนะ แต่มุ่งเน้นที่จะพูดคุย เพื่อแก้ปัญหานี้โดยให้จบเร็วๆ เพราะคุณดิวเอง ก็เครียดและเสียใจที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน รวมทั้งอยากให้ได้รับของคืนโดยเร็ว เชื่อว่าจะจบด้วยดีเร็วๆ นี้

ต่อมาภายหลังจากนายอรรถชัย แจ้งอรุณ ทนายความของ มาดามเมนี่ ได้เข้าพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเสร็จสิ้น ได้เปิดเผยว่า วันนี้มาพบกับตำรวจเป็นการให้ปากคำเพิ่มเติมในการนำข้อเท็จจริงมานำเสนอ โดยเฉพาะในเรื่องที่ว่าอาจจะมีบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมมือในการกระทำดังกล่าว ซึ่งมองว่าอาจพัฒนาไปเป็นการเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงได้

นายอรรถชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของทางพนักงานสอบสวนและศาลในการดำเนินการทางคดีว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ ส่วนตัวขอไม่ให้ความเห็นอะไรเพิ่มเติม ซึ่งทางคดีนั้นยังคงยืนพื้นการแจ้งความร้องทุกข์ที่การยักยอกทรัพย์ ซึ่งมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พร้อมเน้นย้ำว่า ประเด็นในคดีนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครพูดอะไร แต่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน สำหรับเรื่องของทรัพย์สินนั้นมีหลายคนติดต่ออ้างว่ามีทรัพย์สินของคุณเมย์อยู่ในมือ แต่ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังไม่เห็นทรัพย์สินที่แท้จริง ขอใช้เวลาในการตรวจสอบ เช่นเดียวกับประเด็นเรื่องของทรัพย์สินของคุณเมย์ที่อยู่ในมือรัฐมนตรีนั้น เมื่อวานนี้ก็มีนักการเมืองโทรมาเช่นเดียวกัน แต่ขอไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร

ส่วนเรื่องการถอนคดีนั้น นายอรรถชัย กล่าวว่า หากว่ายังเป็นคดียักยอกและฝั่งคุณดิวให้ความร่วมมือและได้นำทรัพย์สินมาคืนจนครบก็พร้อมที่จะถอนคดี เพราะยืนยันว่าฝั่งคุณเมย์ก็ไม่อยากที่จะเอาผิดและยังอยากให้โอกาส แต่เกรงว่าจะหมดอายุความ จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อน พร้อมทั้งที่จะยินดีเจรจาทั้ง 3 ฝ่าย บนหลักการพื้นฐานง่ายๆ ว่า ใครที่เอาของใครไปก็แค่เอามาคืนเท่านั้น

หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายอรรถชัย ได้พบกับทนายเอี้ยง ทนายความของดิว อริสรา โดยบังเอิญ จากนั้นทนายเอี้ยงก็ได้เดินเข้ามาขอจับมือนายอรรถชัย ก่อนที่ทนายเอี้ยง บอกว่า แจ้งความแล้วก็ไม่เป็นไร เรามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากนั้นนายอรรถชัยพูดขึ้นทันทีว่า “รบกวนเอาของมาคืนเร็ว ๆ” ทนายเอี้ยงจึงบอกไปว่า เมื่อคืนคุณดิวเขาคุยกับคนที่เอาของไปไว้แล้ว เดี๋ยวจะเอามาคืนอยู่บางส่วน ส่วนตัวจะพยายามรวบรวม คาดว่าจะจบในเร็วๆ นี้. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]

เหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 5 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ อีสานตอนบน และภาคตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ดานัส”แล้ว คาดว่า […]

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย