เบอร์ลิน 6 พ.ค.- นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีจะถูกทดสอบอำนาจอีกครั้งในการประชุมกับมุขมนตรี 16 รัฐในวันนี้ หลังจากหลายรัฐไม่สนใจตามที่เธอขอให้คลายมาตรการปิดเมืองอย่างระมัดระวัง
เยอรมนีเริ่มคลายมาตรการปิดเมืองเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ด้วยการให้เปิดร้านขนาดเล็กและโรงเรียนบางโรง หลังจากยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ลดลง นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลและมุขมนตรีเห็นพ้องกันเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะคลายมาตรการลงอีก ด้วยการให้เปิดศาสนสถาน สนามเด็กเล่น พิพิธภัณฑ์ และสวนสัตว์ ส่วนในการประชุมวันนี้คาดว่าจะสรุปรายละเอียดเรื่องการเปิดโรงเรียนและโรงเรียนอนุบาล และจะให้สโมสรฟุตบอลในบุนเดสลิกา ลีกสูงสุดของเยอรมนี กลับมาลงสนามเป็นแห่งแรกในยุโรปหรือไม่ หนังสือพิมพ์บิลด์รายงานว่า ที่ประชุมจะหารือเรื่องอัตราการติดเชื้อที่จะใช้เป็นเกณฑ์สำหรับปิดเมืองครั้งใหม่ด้วย
นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลได้ขอให้มุขมนตรีแต่ละรัฐนำเสนอแผนการเปิดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มต่อที่ประชุมในวันนี้ แต่มุขมนตรีรัฐบาวาเรียที่เป็นรัฐใหญ่ที่สุดในประเทศชิงประกาศว่า จะให้เปิดร้านอาหารตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม และให้เปิดเกสต์เฮาส์ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ถึงเวลาที่จะเปิดเมืองอย่างระมัดระวังแล้ว เนื่องจากประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาด เช่นเดียวกับมุขมนตรีรัฐโลว์เออร์แซกโซนี รัฐเมคเลนบูร์ก-เวสเทิร์น พอเมอราเนีย รัฐซาร์ลันด์ และรัฐแซกโซนี-อันฮัลต์ที่ชิงประกาศแผนการของตนเองก่อนการประชุม ขณะที่มุขมนตรีรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลียที่มักวิจารณ์มาตรการปิดเมืองเข้มงวดของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิลตำหนิผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ว่า คาดการณ์ในแง่ร้าย หอผู้ป่วยวิกฤตในรัฐนี้มีเตียงว่างมากถึงร้อยละ 40
สุดสัปดาห์ที่แล้วมีการประท้วงมาตรการปิดเมืองในหลายเมืองของเยอรมนี กลุ่มการเมืองใหม่ที่เรียกตัวเองว่า วิเดอร์ชแตน 2020 (Widerstand 2020 แปลว่าการต่อต้านปี 2563) อ้างว่ามีคนเข้าร่วมเป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ด้านพรรคเอเอฟดี (AfD) สายขวาจัด พรรคฝ่ายค้านที่มี ส.ส.มากที่สุด ก็โจมตีมาตรการปิดเมืองเช่นกัน ขณะที่สถาบันโรเบิร์ตคอคย้ำเตือนว่า มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมยังคงเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นความปกติใหม่ของสังคม เพราะจะช่วยให้อัตราการติดเชื้อคงอยู่ในระดับต่ำ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการระบาดรอบสองหรือรอบสามได้ เยอรมนีใช้การตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึงจนพบผู้ป่วยกว่า 167,000 คน มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 7,000 คน ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในยุโรป.-สำนักข่าวไทย