ชี้การทำให้เส้นกราฟติดเชื้อเป็นแนวราบอาจไม่ใช่จุดเปลี่ยนในการสู้กับโควิด-19

ปักกิ่ง 23 เม.ย.- คณะนักวิจัยสากลชี้ว่า ยุทธศาสตร์การทำให้เส้นกราฟการติดเชื้อเป็นแนวราบที่หลายประเทศพยายามใช้อยู่อาจทำลายเศรษฐกิจโดยที่ให้ผลน้อยมากในการลดจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 


เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานงานวิจัยที่เผยแพร่ในอาร์ไคฟ์ดอทโออาร์จี (arXiv.org) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลเปิดของนักวิจัยหลากหลายสาขาว่า คณะนักวิจัยที่มีนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐรวมอยู่ด้วย และนำโดย ศ.หลิว หยู มหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีนระบุว่า ขอแนะนำอย่างจริงจังให้ทบทวนยุทธศาสตร์การทำให้เส้นกราฟการติดเชื้อเป็นแนวราบ เพราะจะไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนและจำนวนผู้ป่วยก็จะไม่พ้นจุดสูงสุด เนื่องจากต้องพึ่งพาความร่วมมือจากประชาชนเป็นหลักในรักษาระยะห่างทางสังคม กระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต แต่ไม่สามารถแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนส่วนใหญ่ได้ จึงแย่ยิ่งกว่าการไม่ทำอะไรเสียอีก 

การทำให้เส้นกราฟเป็นแนวราบเป็นการนำมาตรการรับมือการระบาดหลากหลายอย่างมาใช้ร่วมกัน ประกอบด้วยการปิดสถานที่สาธารณะ การปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น และการให้คนอยู่บ้าน เป็นการประคองตัวเลขผู้ป่วยใหม่และผู้เสียชีวิตไม่ให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้โรงพยาบาลมีกำลังในการดูแลผู้ป่วย แต่ไม่ได้ลดการติดเชื้อรายใหม่ 


คณะนักวิจัยนำตัวเลขการติดเชื้อรายวัน การแพร่เชื้อทางภูมิศาสตร์ ผลผลิตทางเศรษฐกิจ และการขนส่งสาธารณะ มาประเมินประสิทธิภาพของนโยบายควบคุมในแบบต่างๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเลือกระหว่างการควบคุมการระบาดกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจพบว่า การทำให้เส้นกราฟติดเชื้อเป็นแนวราบทำให้เศรษฐกิจสูญเสียร้อยละ 20-60 แต่ลดจำนวนผู้ป่วยได้ร้อยละ 30-40 ไม่เพียงพอที่จะดึงเส้นกราฟลงได้และไม่คุ้มในแง่ต้นทุนกับประสิทธิภาพ 

ผลการศึกษาพบว่า มีเพียงเกาหลีใต้ กาตาร์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ เท่านั้นที่สามารถยับยั้งการระบาดโดยกระทบธุรกิจน้อยที่สุด ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เศรษฐกิจสะเทือนหนักโดยที่จำนวนผู้ป่วยผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดไม่ได้ดีไปกว่าประเทศกำลังพัฒนาอย่างอิหร่านและสปป.ลาว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร