สปสช.จัดส่งยาฟาวิฯ ให้ผู้ป่วยโควิดแล้วเกือบ 2,000 ราย

กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – สปสช.หลังเปิดให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โทรแจ้งอาการและขอรับยาผ่านสายด่วน 1330 สามารถส่งยาให้ผู้ป่วยใน กทม. และปริมณฑลเกือบ 2,000 ราย เผย สธ.สนับสนุนยาโมลนูพิราเวียร์ให้อีก 1.5 แสนเม็ด


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ในระยะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้ สปสช. จัดระบบเฉพาะกิจเป็นระบบเสริมเพื่อช่วยโรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ดูแลผู้ป่วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา สปสช. ได้เปิดให้ผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับการดูแล สามารถโทรเข้าสายด่วน 1330 เพื่อแจ้งอาการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการประเมินอาการในเบื้องต้น หากเข้าข่ายที่จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ก็จะดำเนินการจัดส่งยาให้ถึงบ้าน โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 23-30 ก.ค.ที่ผ่านมา สปสช.ได้จัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับยาแล้วทั้งสิ้น 1,941 เคส เตรียมนำจ่าย 361 เคส และอยู่ระหว่างการจัดส่งอีก 93 เคส ขณะที่เคสที่จัดส่งไม่สำเร็จมีจำนวน 25 เคส ส่วนมากจัดส่งไม่สำเร็จเพราะผู้ป่วยปิดบ้าน บริษัทหยุด ติดต่อผู้รับไม่ได้ และผู้รับปฏิเสธการรับ


นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์ให้กับ สปสช. ซึ่งรอบแรกได้รับ 40,000 เม็ด และครั้งที่ 2 ได้รับอีก 100,000 เม็ดจากโรงพยาบาลราชวิถี และวานนี้ (1 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรยาโมลนูพิราเวียร์มาให้ สปสช.เพิ่มอีก 150,000 เม็ด ซึ่งผู้ป่วยที่โทรแจ้งสายด่วน 1330 ที่จำเป็นต้องได้รับยาในช่วงต่อไปจะได้รับยาโมลนูพิราเวียร์แทน ซึ่งยาตัวนี้ออกฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของ RNA ไวรัสและลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงเช่นเดียวกับยาฟาวิพิราเวียร์ โดยได้รับการอนุมัติจากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ให้ใช้ในไทยแล้ว

“ตามแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมการแพทย์ สปสช.จะจัดส่งยาโมลนูพิราเวียร์ให้แก่ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเน้นในกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ผู้มีภาวะอ้วน ผู้ป่วยตับแข็ง ผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ และผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่มี CD. cell count น้อยกว่า 200 เซลล์/ลบ.มม. แต่จะไม่ใช้ยานี้กับหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร” นพ.จเด็จ กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช.1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย