ผู้เชี่ยวชาญฮ่องกงแย้งผู้เชี่ยวชาญจีน โควิด-19 จะระบาดเป็นเดือนไม่ใช่สัปดาห์

ฮ่องกง 3 เม.ย.- ศ.แกเบรียล เหลียง นักระบาดวิทยาชั้นนำของฮ่องกงชี้ว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะระบาดทั่วโลกไปอีกหลายเดือนแม้มีมาตรการป้องกันเข้มงวด แย้งกับที่ ศ.จง หนานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางเดินหายในชั้นนำของจีนคาดว่าจะควบคุมได้ภายในสิ้นเดือนนี้ 


ศ.เหลียงกล่าวบนเวทีความคืบหน้าเรื่องโควิด-19 ที่จัดโดยสมาคมเอเชียแห่งฮ่องกงและมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ในวันนี้ว่า คำถามที่ว่าอากาศที่อุ่นขึ้นจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่นั้น คำตอบคืออาจจะ แต่น่าจะไม่ เขาเห็นด้วยว่าสำหรับประเทศในซีกโลกเหนือ ฤดูร้อนหลายเดือนอาจช่วยให้ได้หายใจหายคอขึ้นบ้าง สาเหตุไม่ใช่เพราะฤดูร้อน แต่เพราะผู้ป่วยต้องสงสัยได้แสดงอาการหรือได้รับการรักษามากขึ้น และมีจำนวนหนึ่งเสียชีวิต ไวรัสโรคนี้เป็นไวรัสใหม่ คนยังไม่มีภูมิต้านทาน และแพร่ได้รวดเร็ว ร้อยละ 40 ของการแพร่เชื้อเกิดจากผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการระหว่างที่เชื้อฟักตัว ทำให้ยากที่จะควบคุมการแพร่ระบาด ต้องรอให้ประชากรโลกครึ่งหนึ่งมีภูมิต้านทาน ไม่ว่าจะจากการติดเชื้อตามธรรมชาติแล้วหายหรือจากการได้รับวัคซีน การระบาดจึงจะชะลอลง แต่กว่าจะมีวัคซีนต้องรอไม่ต่ำกว่า 1 ปี จะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน อาจต้องผ่านวงจรซ้ำ ๆ ด้วยการใช้มาตรการเข้มงวดมาก ๆ เพื่อควบคุมการระบาด แล้วผ่อนคลายลง จากนั้นก็กลับมาเข้มงวดใหม่ในอีกหลายเดือน

ผู้เชี่ยวชาญฮ่องกงแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากเมื่อวานนี้ ศ.จงของจีนคาดการณ์ว่า โควิด-19 ระบาดจะถูกควบคุมได้ภายในหนึ่งเดือน แต่ไม่ได้ให้เหตุผลที่คิดเช่นนั้น โดยกล่าวเพียงว่า หลังจากปลายเดือนเมษายนไปแล้ว ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าไวรัสจะระบาดอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า หรืออาจจะหายไปพร้อมกับอากาศที่อุ่นขึ้น แต่ที่แน่ ๆ ไวรัสจะมีความสามารถลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น 


เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าอากาศอุ่นจะชะลอการแพร่ไวรัส เพราะประเทศเขตร้อนอย่างกัมพูชา อินโดนีเซีย ซาอุดีอาระเบียก็มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี