เบงกาลูรู 25 มี.ค.- ศูนย์บริการลูกค้าหรือคอลเซ็นเตอร์และบริษัทบริการเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอที ธุรกิจเอาต์ซอร์สขนาดใหญ่ในอินเดียที่เป็นระบบหลังบ้านของโลกมีปัญหาเรื่องให้พนักงานทำงานจากบ้านในช่วงที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีมีคำสั่งเมื่อวานนี้ให้ชาวอินเดีย 1,300 ล้านคนอยู่บ้านเป็นเวลา 21 วันเพื่อยับยั้งการระบาด หลังจากหลายเมืองและหลายรัฐประกาศปิดเมืองไปก่อนแล้ว ขณะที่ยอดผู้ป่วยเมื่อวานนี้เกิน 500 คน เสียชีวิต 9 คน แต่บริษัทให้บริการทางธุรกิจหลายแห่งยังไม่ได้เตรียมการเรื่องการทำงานจากบ้าน พนักงานคอลเซ็นเตอร์ของเจพีมอร์แกน วาณิชธนกิจของสหรัฐที่ตั้งอยู่ในเมืองเบงกาลูรูหรือบังกาลอร์ รัฐกรณาฏกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดียเผยว่า บริษัทปัดคำขอทำงานจากบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่กลัวติดเชื้อเพราะรู้ว่าคนหนุ่มสาวมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ แต่กลัวไปแพร่เชื้อให้คนในครอบครัว จนกระทั่งรัฐบาลท้องถิ่นมีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้วและเจพีมอร์แกนขอเมื่อวันอาทิตย์ให้พนักงานอยู่บ้านจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม บริษัทจึงยินยอม
ผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทไอทีชั้นนำแห่งหนึ่งในอินเดียยอมรับว่า ต้องขออนุญาตจากลูกค้าก่อนจึงจะสามารถให้พนักงานในโครงการที่มีความอ่อนไหวทำงานจากบ้านได้ ปัญหาเวลานี้ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องกฎระเบียบและเรื่องคนรับผิดชอบหากเกิดความผิดพลาด ด้านพนักงานบริษัทไอทีในเมืองปูเน รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดียเผยว่า รปภ.ไม่ให้พนักงานออกนอกอาคารตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะกลัวตำรวจเห็นแล้วจะถูกสั่งปิด เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นสั่งให้พนักงานบริษัททำงานจากบ้าน ยกเว้นบริการสำคัญ ขณะที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลขอไม่ให้สวมหน้ากากอนามัยมาทำงานเพราะเกรงจะทำให้คนอื่นตื่นกลัว จนกระทั่งรัฐบาลท้องถิ่นประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่วันจันทร์ บริษัทจึงให้ทำงานจากบ้านแม้ว่าหลายคนไม่มีอุปกรณ์ เช่น โน้ตบุ๊ก ก็ตาม.- สำนักข่าวไทย