ดูไบ 9 ม.ค. – รายงานผลสอบเบื้องต้นของอิหร่านระบุว่า เครื่องบินโบอิง 737-800 ของสายการบินยูเครนที่ตกลงทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเตหะรานเมื่อวันพุธ และคร่าชีวิตลูกเรือและผู้โดยสารทั้ง 176 คนบนเครื่อง เกิดไฟไหม้ก่อนจะตก
รายงานขององค์การการบินพลเรือนของอิหร่าน ซึ่งอ้างปากคำของพยานภาคพื้นดินและจากเครื่องบินอีกลำที่บินอยู่สูงกว่าระบุว่า เครื่องบินลำที่ตก เกิดไฟไหม้ตั้งแต่อยู่กลางอากาศ
เครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างนำผู้โดยสารที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่านและชาวแคนาดาเชื้อสายอิหร่าน เดินทางไปกรุงเคียฟ ของยูเครน ตกหลังจากเพิ่งทะยานขึ้นจากสนามบินอิหม่ามโคไมนีได้เพียงไม่นาน โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง อิหร่านเพิ่งยิงขีปนาวุธโจมตีกองกำลังสหรัฐในอิรัก และทำให้บางฝ่ายคาดการณ์ว่าเครื่องบินอาจถูกโจมตี อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวด้านความมั่นคง 5 คน ซึ่งไม่ประสงค์จะออกนาม จากสหรัฐ ยุโรป และแคนาดาบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า จากการประเมินเบื้องต้นของสำนักข่าวกรองของชาติตะวันตกหลายสำนักระบุว่า เครื่องบินเกิดความผิดปกติทางเทคนิค และไม่ได้ถูกขีปนาวุธยิง
ส่วนที่กรุงเคียฟ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า รัฐบาลยูเครนกำลังพิจารณาถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ และได้ขอให้ผู้คนงดเว้นการคาดเดาถึงทฤษฎีสมคบคิดและด่วนสรุป พร้อมประกาศให้วันที่ 9 มกราคม เป็นวันแห่งการไว้อาลัย.- สำนักข่าวไทย