ซิดนีย์ 8 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียวอนนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่าหนีหาย ไม่ท่องเที่ยวออสเตรเลียเพราะไฟป่า เนื่องจากหลายพื้นที่ยังเปิดรับนักท่องเที่ยวอยู่และจะช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นดำรงอยู่ได้ในช่วงเวลาแบบนี้
นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันกล่าวกับสื่อหลังประชุมกับผู้ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวและเกษตรกรระหว่างไปตรวจเยี่ยมเกาะแคงการูหรือเกาะจิงโจ้ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังนอกชายฝั่งทางใต้ที่เกิดไฟป่าถึงสองครั้งในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ว่า ออสเตรเลียเป็นประเทศเปิด และยังคงเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่ผู้คนควรมาท่องเที่ยวและพาครอบครัวมาพักผ่อนช่วงวันหยุด เช่น เกาะจิงโจ้แห่งนี้แม้ถูกไฟป่าเผาไป 1 ใน 3 ก็ยังมีพื้นที่อีก 2 ใน 3 ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว การช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นดำรงอยู่ได้ในช่วงเวลาแบบนี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง การท่องเที่ยวครองสัดส่วนร้อยละ 3.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ออสเตรเลีย ฤดูร้อนที่ผ่านมายอดจองที่พักในออสเตรเลียลดลงมาก รีสอร์ที่เคยคึกคัก บางแห่งเงียบเหงาราวกับรีสอร์ทร้าง ทั้งที่ฤดูร้อนก่อนหน้านั้นมีนักท่องเที่ยวมาเยือนออสเตรเลียมากถึง 2.71 ล้านคน
ผู้นำออสเตรเลียวอนคนมาท่องเที่ยวขณะที่ไฟป่าเผาพื้นที่ไปแล้วกว่า 64.37 ล้านไร่ เทียบเท่าพื้นที่เกาหลีใต้ทั้งประเทศ ควันไฟป่าแพร่กระจายไปไกลถึงทวีปอเมริกาใต้ ที่อยู่อีกฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าที่ไหม้มาตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 26 คน รายล่าสุดเป็นอาสาสมัครที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะดับไฟป่าเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ไฟฟ้าและการสื่อสารในหลายเมืองใช้การไม่ได้ บางเมืองเริ่มขาดแคลนน้ำแล้ว ทางการรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้วอนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไฟป่าคิดเรื่องอพยพก่อนที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นในวันศุกร์ และจะทำให้ไฟรุนแรงขึ้นอีก ไฟป่าเหล่านี้อันตรายมาก เพราะไม่หยุดนิ่งและแปรปรวนไปตามสภาพอากาศ
ส่วนความช่วยเหลือจากนานาชาตินั้น นักดับเพลิงจากสหรัฐและแคนาดาอีก 67 นายเดินทางมาสมทบนักดับเพลิงชาติเดียวกันที่เข้าไปในพื้นที่แล้ว 40 นาย ออสเตรเลียขอให้ส่งมาเพิ่มอีก 140 นาย คาดว่าจะมาถึงภายในสองสัปดาห์ ผู้นำชุมชนต่าง ๆ ขอให้ผู้อยากช่วยเหลือบริจาคเงินเป็นหลัก ไม่บริจาคอาหารและสิ่งของที่จะหลายเป็นภาระเพราะเกินความต้องการ และขอให้ระวังพวกฉวยโอกาสหลอกรับบริจาคเงินทางออนไลน์ด้วย ด้านนักนิเวศวิทยาออสเตรเลียคาดว่า มีสัตว์ถูกไฟคลอกตายหรือบาดเจ็บมากถึง 1,000 ล้านตัว เพิ่มขึ้นสองเท่าจากที่ประมาณการก่อนหน้านี้ ขณะที่สหภาพยุโรปคาดว่า ไฟป่าออสเตรเลียทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์และสารก่อมลพิษอันตรายแล้ว 400 เมกะตัน.-สำนักข่าวไทย
