ซิดนีย์ 16 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลียทำให้ไฟป่าขนาดใหญ่ทางตะวันออกของประเทศลามหนักขึ้นโดยไม่เจตนา ขณะใช้วิธีเผากลับเพื่อพยายามควบคุมไฟ ส่งผลให้อาคารหลายแห่งถูกเผาและถนนหลักถูกตัดขาด
ผู้บริหารสำนักงานดับเพลิงชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์เผยกับบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลียหรือเอบีซี (ABC) ในวันนี้ว่า เหตุเกิดห่างจากนครซิดนีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 250 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามสกัดไฟป่าที่เผาพื้นที่ไปแล้ว 2.36 ล้านไร่ไม่ให้ไปถึงย่านชุมชนด้วยการเผากลับ หวังให้ไฟดับเพราะหมดเชื้อไฟ แต่สภาพแวดล้อมแปรเปลี่ยนครั้งใหญ่ ไฟปะทุขึ้นมาใหม่และลามจากจุดที่ต้องการสกัด เป็นเหตุให้อาคารสิบว่าหลังถูกเผา แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียเตือนว่า พื้นที่ตอนในของภาคตะวันออกเฉียงใต้เสี่ยงเกิดคลื่นความร้อนร้ายแรงถึงสุดขีด อุณหภูมิอาจแตะหรือทะลุสถิติเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 40.3 องศาเซลเซียส เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาความร้อนสะสมตัวอย่างเห็นได้ชัดในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ขณะนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางฝั่งตะวันออก และจะทำให้เกิดความร้อนผิดปกติ สำนักงานดับเพลิงชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ชี้ว่า ความร้อนจะทำให้อันตรายจากไฟป่ารุนแรงมากยิ่งขึ้น และจะทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ทั้งที่พยายามอย่างสุดความสามารถ
ไฟป่าทั่วภาคตะวันออกของออสเตรเลียเกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งยังเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทั้งที่ปกติแล้วมักเกิดขึ้นช่วงฤดูร้อน จึงถือว่าเร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังโหมไหม้แรงกว่าปกติด้วย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน บ้านเรือนถูกเผาไปกว่า 680 หลัง ป่าละเมาะถูกเผาไปเกือบ 7.5 ล้านไร่.- สำนักข่าวไทย