อิรัก 29 พ.ย.- การประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิรักยังคงเป็นไปอย่างดุเดือดล่าสุดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิตมากถึง 10 คน
ผู้ชุมนุมชาวอิรักยังคงรวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการปราบปรามผู้ประท้วงโดยมีการส่งทหารและตำรวจเข้าประจำการในทุกพื้นที่ ซึ่งมีการชุมนุมทั่วประเทศ ล่าสุดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ประท้วงถูกยิงด้วยกระสุนจริงเสียชีวิตไปถึง 40 คน นับตั้งแต่เกิดเหตุผู้ประท้วงพากันวางเพลิงเผาสถานกงสุลของอิหร่านในเมืองนาจาฟทางภาคใต้เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจอิหร่านที่ให้การหนุนหลังรัฐบาลอิรัก เหตุการณ์ปะทะในเมืองนาจาฟระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงทำให้มีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิตไป 5 คน และบาดเจ็บ 32 คน การประท้วงในอิรักเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมาจากความไม่พอใจในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและมีคนตกงานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาล ขณะที่อิหร่านประณามเหตุการณ์เผาสถานกงสุลและเรียกร้องให้รัฐบาลอิรักจัดการด้วยมาตรการที่แข็งกร้าวและมีประสิทธิภาพ
ด้านนายม็อกตาดาร์ อัล ซาดร์ ผู้นำนิกายชีอะห์ในอิรักเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกทันทีเพื่อยุติการนองเลือด หลังจากมีผู้ประท้วงเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 350 คนจากการใช้กระสุนจริงและแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย