เจาะลึกทริปทรัมป์เยี่ยมทหารอเมริกันในอัฟกานิสถาน

วอชิงตัน 29 พ.ย.- เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นเผยรายละเอียดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเดินทางไปเยี่ยมทหารอเมริกันในอัฟกานิสถานอย่างเงียบ ๆ ในวันก่อนวันขอบคุณพระเจ้า หลังจากทางการเก็บทุกอย่างเป็นความลับและอนุญาตให้รายงานข่าวก่อนเดินทางกลับเท่านั้น


ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากรีสอร์ทมาร์อะลาโกในรัฐฟลอริดาเมื่อคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่นไปขึ้นเครื่องบินทหารที่ฐานทัพอากาศลับพร้อมกับคนสนิทระดับสูงกลุ่มเล็ก ๆ บนเครื่องมีแต่อุปกรณ์จำเป็นคือที่นั่งเบาะหนัง 4 ตัว และห้องน้ำพกพา ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเดินทางถึงฐานทัพอากาศร่วมแอนดรูว์ นอกกรุงวอชิงตัน เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน 747 ที่จอดรออยู่พร้อมกับกลุ่มผู้สื่อข่าวที่อยู่บนเครื่องบินแล้ว เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและผู้สื่อข่าวถูกยึดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดก่อนเครื่องบินขึ้น หน้าต่างและไฟบนเครื่องถูกปิดหมด 

ผู้สื่อข่าวติดตามคณะล้วนไม่รู้จุดหมายจนกระทั่งโฆษกทำเนียบขาวแจ้งก่อนเครื่องบินลงจอดที่กรุงคาบูลของอัฟกานิสถานในอีกสองชั่วโมงว่า จุดหมายเป็นพื้นที่อันตราย ประธานาธิบดีต้องการไปให้กำลังใจทหาร ประธานาธิบดีและสตรีหมายเลขหนึ่งรู้ดีว่ามีหลายคนต้องอยู่ไกลจากครอบครัวในช่วงวันหยุดแบบนี้ จึงอยากไปสร้างความประหลาดใจที่ดี ๆ เครื่องบินลงจอดที่ฐานทัพอากาศบากราม ทางเหนือของกรุงคาบูลท่ามกลางความมืดสนิท หน้าต่างและไฟบนเครื่องบินถูกปิดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย


นับเป็นครั้งแรกที่ทรัมป์เดินทางเยือนอัฟกานิสถานหลังจากรับตำแหน่งในปี 2560 และเป็นการเยือนพื้นที่สงครามครั้งที่สองหลังจากเยือนอิรักในวันก่อนคริสต์มาสเมื่อปีก่อน การเดินทาง 16 ชั่วโมงและการใช้เวลาที่ฐานทัพอากาศ 3 ชั่วโมง ทั้งหมดถูกเก็บเป็นความลับตามระเบียบเมื่อประธานาธิบดีในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดเยือนพื้นที่สงคราม ผู้สื่อข่าวที่ติดตามคณะประธานาธิบดีได้รับอนุญาตให้รายงานข่าวเมื่อเวลา 14.00 น.วันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ ไม่กี่นาทีก่อนขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันกลับสหรัฐ

ซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า แผนการเดินทางครั้งนี้มีการเตรียมการล่วงหน้าหลายสัปดาห์ แต่รู้เฉพาะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในวงจำกัดเท่านั้น บัญชีทวิตเตอร์ของทรัมป์โพสต์อวยพรชาวอเมริกันในวันขอบคุณพระเจ้าในเช้าวันพฤหัสบดี เป็นทวีตที่ตั้งเวลาไว้ล่วงหน้า เช่นเดียวกับทวีตอื่น ๆ ที่โพสต์เมื่อค่ำวันพุธและเช้าวันพฤหัสบดี เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยว่าประธานาธิบดีหายไปไหน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เตรียมสถานที่รับร่างผู้เสียชีวิตเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้

เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมสถานที่รอรับร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กำชับดูแลด้านจิตใจและช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียให้ครบถ้วน

ธงแดงเตือนน้ำป่า

เชียงใหม่ชักธงแดง เตือนเก็บของขึ้นที่สูง

เชียงใหม่ชักธงแดง หลังน้ำป่าหลากหลายพื้นที่ น้ำปิงขึ้นสูง คาดสูงสุดเกือบ 5 เมตร คืนนี้ เตือนชุมชนในเมือง 7 โซน เก็บของขึ้นที่สูง

ไต้ฝุ่นกระท้อน

พายุไต้ฝุ่น “กระท้อน” ขึ้นฝั่งเกาะไต้หวันเช้าวันนี้

กรมอุตุฯ เผยพายุไต้ฝุ่น “กระท้อน” กำลังจะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน เช้าวันนี้ ส่วนไทยยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่องอีกหนึ่งวัน จากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนล่าง ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมในระดับล่างทางด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง

ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัย และทรงห่วงใย เหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเพลิงไหม้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่อ่วมหลังน้ำปิงล้นทะลัก ท่วมหนักในรอบหลายสิบปี

น้ำท่วมเชียงใหม่ยังวิกฤติ หลังน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทะลักเข้าท่วมชุมชนย่านการค้า เรียกว่าเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดของเชียงใหม่ในรอบหลายสิบปี

น้ำพัดช้างล้ม

ช้างล้ม 2 เชือก คาดถูกน้ำพัดไปติดอุโมงค์ส่งน้ำ

ยืนยันช้าง 2 เชือกตายแล้ว พลอยทอง อายุกว่า 40 ปี ตาบอด 2 ข้าง ฟ้าใส อายุ 16 ปี เป็นช้างของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม คาดถูกกระแสน้ำพัดลอยไปติดอุโมงค์ส่งน้ำ เจ้าหน้าที่เตรียมฝังวันนี้

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่ม “เหนือ-กลาง-ใต้” ระวังน้ำท่วม-น้ำป่า

กรมอุตุฯ เตือนรับมือฝนตกหนัก “เหนือ-กลาง-ใต้” ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคอีสานอากาศเย็นตอนเช้า

ปฏิบัติการกู้ชีวิตช้างจมน้ำ หลังน้ำป่าหลากท่วมมูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ

หลังน้ำป่าจากบนดอยหลากลงลำน้ำแม่แตง ทะลักท่วมมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเหมือนบ้านหลังสุดท้ายของช้างกว่า 100 เชือก และสัตว์นานาชนิด รวมเกือบ 4,000 ตัว ซึ่งอพยพช้างและสัตว์ส่วนใหญ่ออกมาได้แล้ว แต่ยังมีช้างอีกกว่า 10 เชือก จมน้ำที่ท่วมสูงเกือบ 3 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือออกมา แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก