ตร.ฮ่องกง เร่งสอบเหตุชายถูกจุดไฟเผา หลังโต้เถียงกับผู้ประท้วง

ฮ่องกง 12 พ.ย.- ตำรวจฮ่องกงแจงใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ประท้วง เพื่อป้องกันตัว พร้อมประณามกรณีมีผู้ชายคนหนึ่งถูกทำร้ายร่างกายด้วยการถูกราดน้ำมันจุดไฟเผา หลังเกิดโต้เถียงกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยตำรวจกำลังเร่งสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่คนที่ถูกจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกหลายจุดทั่วร่างกาย โดยถอดเสื้อที่ติดไฟออกทิ้งได้ทันก่อนถูกไฟคลอกทั่วตัว


หลังการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในสัปดาห์ที่ 24 ของฮ่องกง เมื่อวานนี้ เกิดความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วเกาะฮ่องกง รวมทั้งเหตุการณ์ตำรวจใช้ปืนพกสั้นยิงผู้ประท้วงระยะประชิดจนล้มฟุบกับพื้นถนนในย่านไซว่านโห ทางตะวันออกของฮ่องกง ผู้ถูกยิงอาการสาหัส โดยฝ่ายตำรวจออกแถลงข่าวเกี่ยวกับการตัดสินใจใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วงว่า ทำไปเพื่อปกป้องตัวเอง


พร้อมกันนี้ยังประณามกรณีมีผู้ชายคนหนึ่งถูกทำร้ายร่างกายด้วยการถูกราดน้ำมันจุดไฟเผา หลังเกิดโต้เถียงกับกลุ่มผู้ชุมนุมบนสะพานคนข้ามย่านหม่า ออน ชาน เขตนิวเทอร์ริเทอรีส์ เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่คนที่ถูกจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกหลายจุดทั่วร่างกาย แต่ผู้เคราะห์ร้ายคนดังกล่าวสามารถถอดเสื้อที่ติดไฟออกทิ้งได้ทันก่อนถูกไฟคลอกทั่วตัว


ด้านนางแคร์รี หลำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง แถลงว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเกินกว่าข้อเรียกร้องประชาธิปไตย ตอนนี้กลุ่มผู้ประท้วงเป็นศัตรูประชาชนแล้ว คนพวกนี้กำลังทำลายสังคม การใช้ความรุนแรงเพื่อให้ได้ตามข้อเรียกร้องจะไม่มีทางสำเร็จ

กงสุลฯ เตือนคนไทยในฮ่องกง

ด้านสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง รายงานว่า ในวันนี้ (12 พ.ย.) ในฮ่องกงตั้งแต่เช้าตรู่เป็นต้นไป อาจมีการชุมนุมประท้วงด้วยการขัดขวางเส้นทางจราจรและขนส่งสาธารณะ (รถประจำทาง รถราง และรถไฟใต้ดิน MTR) จึงแจ้งมาเพื่อให้คนไทยทุกคนในฮ่องกงเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ความไม่สะดวกที่อาจจะเกิดขึ้น และการชุมนุมประท้วงมีการใช้ความรุนแรงบ่อยครั้ง จึงขอย้ำโปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางหรือเข้าใกล้สถานที่มีการชุมนุมประท้วง รวมทั้งโปรดงดการถ่ายภาพในระยะใกล้ การกระทำอื่นๆ ที่อาจเป็นการยั่วยุผู้ประท้วง

หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถประสานสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน โทร. (+852) 6821-1545, (+852) 6821-1546 หรือเฟซบุ๊ก  Royal Thai Consulate-General, Hong Kong และ Call Center กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โทร.(+66) 2-572-8442.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง