กีเตกา 6 ส.ค.- สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือโอซีเอชเอ (OCHA) แจ้งสถานการณ์ไข้มาลาเรียระบาดในบุรุนดี ประเทศทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันออกของทวีปแอฟริกาว่า คร่าชีวิตคนไปกว่า 1,800 คนแล้วในปีนี้ พอ ๆ กับอีโบลาระบาดหนักในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกมากว่าปี
รายงานล่าสุดของโอซีเอชเอระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้พบผู้ป่วยมาลาเรียในบุรุนดีแล้ว 5.7 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ 11.6 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1,801 คนเสียชีวิตระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 21 กรกฎาคม แต่บุรุนดียังไม่ประกาศให้เป็นเหตุฉุกเฉินระดับประเทศทั้งที่โอซีเอชเอแจ้งว่าสถานการณ์เกินเส้นการระบาดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว แผนการรับมือของบุรุนดีขณะนี้สะท้อนถึงการขาดแคลนกำลังคน ทรัพยากรด้านโลจิติกส์และการเงินที่มีประสิทธิภาพ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทุ่มเททรัพยากรที่จำเป็นเพื่อเร่งรับมือกับสถานการณ์ก่อนที่จะลุกลามมากไปกว่านี้ โอซีเอชเอระบุด้วยว่า การขาดแคลนมาตรการเชิงป้องกันอย่างมุ้งกันยุง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการที่ผู้คนพากันอพยพลงมาจากพื้นที่เทือกเขาที่มีภูมิต้านทานมาลาเรียต่ำ ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง
บุรุนดีเคยประกาศให้มาลาเรียเป็นเหตุฉุกเฉินระดับประเทศเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ครั้งนั้นมีผู้ป่วย 1.8 ล้านคน เสียชีวิต 700 คน แต่ครั้งนี้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตมากกว่าแต่กลับไม่ประกาศ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเผยว่า ประธานาธิบดีปิแอร์ อึนคูรุนซิซา ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาหลายเรื่องไม่ต้องการยอมรับว่านโยบายสาธารณสุขล้มเหลวก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า เอเอฟพีระบุว่า บุรุนดีตกอยู่ในวิกฤตตั้งแต่ปี 2558 เมื่อประธานาธิบดีอึนคูรุนซิซาได้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สามในการเลือกตั้งที่ฝ่ายค้านส่วนใหญ่คว่ำบาตร ยูเอ็นเผยว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในบุรุนดีทำให้คนล้มตายไม่ต่ำกว่า 1,200 คน และกลายเป็นผู้พลัดถิ่นอีกกว่า 400,000 คน.- สำนักข่าวไทย