วอชิงตัน 29 พ.ค.- ชายที่บุกรุกรีสอร์ทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่ย่านมาร์ อะ ลาโก เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดาเมื่อปลายปีก่อน รับสารภาพต่อศาลว่าทำไปโดยเจตนา โดยผ่านการตรวจของหน่วยอารักขาประธานาธิบดีเข้าไปเตร็ดเตร่อยู่พักหนึ่งก่อนถูกจับได้
นายมาร์ก สแลตเตอรี ลินด์บลอม รับสารภาพว่า อาศัยอยู่กับครอบครัวในที่ดินบริเวณชายหาดติดกับรีสอร์ท แล้วได้มุดอุโมงค์เข้าไปในรีสอร์ทเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน หนึ่งวันหลังวันขอบคุณพระเจ้าโดยรู้ว่าเป็นของประธานาธิบดี เขาผ่านการตรวจของหน่วยอารักขาเข้าไปเดินเล่นในพื้นที่หวงห้ามระหว่างที่ประธานาธิบดีพักผ่อนอยู่ข้างใน จนกระทั่งถูกหน่วยอารักขาจับได้
ด้านโฆษกหน่วยอารักขาแถลงว่า นายลินด์บลอมเข้าไปในรีสอร์ทหลังจากให้หน่วยอารักขาตรวจอาวุธและวัตถุอันตราย แต่ไม่ได้เข้าถึงประธานาธิบดีหรือนางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง เนื่องจากมีการวางมาตรการอารักขาหลายชั้น เขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนรวมของสโมสรที่เปิดให้สำหรับสมาชิก และมีท่าทางไม่เหมือนสมาชิกหรือแขกของรีสอร์ท เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาจึงเข้าไปประชิดตัวและควบคุมตัวออกมาโดยละม่อม
นายลินด์บลอมถูกตั้งข้อหาบุกรุกเมื่อเดือนธันวาคม เขายอมรับสารภาพในวันนี้ตามข้อกลงกับอัยการ ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดาจึงตัดสินทำทัณฑ์บน 1 ปี และปรับเงิน 25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 795 บาท) หนังสือพิมพ์ปาล์มบีชโพสต์รายงานว่า นายลินด์บลอมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน เอกสารคำฟ้องระบุว่า เขาเกิดในปี 2543
หลายเดือนก่อนหน้านี้ สตรีจีนคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามของรีสอร์ทแห่งเดียวกัน คำฟ้องอาญาระบุว่า เธอโกหกจนสามารถเล็ดลอดมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้าไปในเขตคุ้มกัน เธอแสดงหนังสือเดินทางสองเล่มให้หน่วยอารักขาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบว่าเธอนำโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง แล็ปท็อป เอ็กซ์เทอร์นัลฮาร์ดไดรฟ์ และแฟลชไดรฟ์ติดตัวมาด้วย ขณะนั้นประธานาธิบดีไม่ได้พำนักอยู่ในรีสอร์ท เธอให้การว่าไม่ได้ทำผิด และไม่รับอนุญาตให้ประกันตัวเมื่อเดือนเมษายน ศาลสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปเนื่องจากเธอขอให้การแก้ต่างให้ตัวเอง.- สำนักข่าวไทย