เวเนซุเอลา 29 ม.ค. – การเมืองถล่มซ้ำเวเนซุเอลา หลังมีประธานาธิบดีซ้อนกัน 2 คน สหรัฐนำทีมพันธมิตรบีบ “มาดูโร” ผู้นำจากการเลือกตั้งพ้นอำนาจ
เงินเฟ้อเวเนซุเอลาจ่อทะลุ 2,000,000%
เงินเฟ้อเวเนซุเอลาอาจพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงที่เรียกว่า Hyperinflation ทะลุถึง 2,000,000% ภายในปี 2019 นี้ เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวจากระดับ 1,000,000% ในปีที่ผ่านมา จากการออกมาตีแผ่ข้อมูลของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลนิโคลัส มารูโด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ท่ามกลางรายงานที่ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเกิดปัญหาการเมืองในประเทศหลังจากการเสียชีวิตของฮูโก ชาเวส ช่วงปี 2013 โดยที่นิโคลัส มารูโด เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เป็นต้นมา ก็ต้องเผชิญกับปัญหาชาวเวเนซุเอลาก็มีการอพยพออกนอกประเทศมากขึ้นจำนวนถึง 700,000 คน และมีจำนวนผู้อพยพมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม 2018 พุ่งขึ้นเป็น 2.3-3 ล้านคนหรือเทียบเท่ากับ 7% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
จากสถิติของ International Organization Of Migration พบว่า การอพยพออกนอกประเทศของชาวเวเนซุเอลาเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2005 ที่มีจำนวนเพียง 437,000 คน เพิ่มขึ้นที่ 556,000 คนในปี 2010 ช่วง 5 ปีถัดมาเพิ่มขึ้นเป็น 695,000 คนในปี 2015 และพุ่งขึ้นเป็น 2,328,000 คนในช่วงปี 2017-2018
โดยมีชาวเวเนซุเอลาที่อพยพเข้าไปในโคลัมเบียแล้ว 870,000 คน เพิ่มขึ้นถึง 1,680% และในเปรูจำนวน 354,000 คนเพิ่มขึ้น 14,900%
การอพยพยังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากชาวเวเนซุเอลามากถึง 90% ตกอยู่ในภาวะที่ยากจนและยังอดอยากจากการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ไปจนถึงการบริการสาธารณะต่างๆ จากการที่ค่าเงินโบลิวาร์ตกต่ำแทบจะไม่เหลือมูลค่าใดๆ หลังจากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ล้มเหลว
หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตกต่ำลงอย่างมากนับจากปี 2013 ทำให้เวเนซุเอลาที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันเกือบทั้งหมดของการส่งออกรวม ต้องตกต่ำอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรการค้าน้ำมันในตลาดโลกจากสหรัฐ
นอกจากนี้ รัฐบาลเวเนซุเอลาภายใต้การนำของนิโคลัส มารูโด ยังถูกปิดกั้นไม่ให่เข้าถึงแหล่งเงินที่เป็นสกุลดอลลาร์ในตลาดการเงินโลก ทำให้ฐานะประเทศยิ่งทรุดหนัก ฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศแทบไม่มีเหลือ ประกอบภาระหนี้ต่างประเทศที่อยู่ในระดับสูงต้องครบกำหนดชำระคืนอีกมาก
รัฐบาลของนิโคลัส มารูโด ยังเผชิญกับการคว่ำบาตรทางการเมืองจากสหรัฐ จนล่าสุด สหรัฐสนับสนุนฮวน กุยโด วัย 35 ปี ซึ่งเป็นประธานสมัชชาแห่งชาติ และในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างการแทนนิโคลัส มารูโด ส่งผลให้เกิดผู้นำซ้อนในประเทศ
เวเนซุเอลาวันนี้ไม่ได้แตกต่างจากแรงกดดันให้เกิดการแบ่งแยกเป็น 2 ฝ่ายจากปัจจัยภายนอกประเทศ นำโดยสหรัฐที่เรียกร้องนานาประเทศให้การรับรองฮวน กุยโด เป็นประธานาธิบดี เวเนซุเอลา แทนนิโคลัส มารูโด ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพในประเทศ รวมทั้งจากรัสเซีย อิหร่าน ตุรกี คิวบา และจีน รวมทั้งประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย
ขณะที่ประเทศที่ให้การรับรองฉฮวน กุยโด ประกอบด้วยอังกฤษ แคนาดา และอีก 12 ประเทศในอเมริกาใต้และลาตินอเมริกา
ขณะที่เม็กซิโก ยุโรปส่วนใหญ่ และอินเดีย เรียกร้องให้มีการหันมาเจรจาทั้ง 2 ฝ่าย และเปลี่ยนผ่านทางการเมืองด้วยการจัดให้มีเลือกตั้งครั้งใหม่
ขณะเดียวกัน เวเนซุเอลายังคงดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของประเทศ โดนนิโคลัส มารูโด ได้ขอถอนทองคำที่ฝากไว้กับธนาคารกลางอังกฤษคิดเป็นมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำมาหนุนหลังในการพิมพ์เงินโบลิวาร์หมุนเวียนใช้จ่ายในประเทศ และเครื่องวัดมูลค่าราคาสินค้าในประเทศ แต่กำลังถูกบล็อกจากฮวน กุยโด ที่มีจดหมายถึงธนาคารกลางอังกฤษ โดยระบุว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลนิโคลัส มารูโด
เวเนซุเอลากำหลังเผชิญหน้ากับทั้งวิกฤติการเมืองและวิกฤติเศรษฐกิจ รวมถึงวิกฤติประเทศ โดยที่ชาวเวเนซุเอลา ไม่มีบทบาทในการกำหนดอนาคตของประเทศ ตรงกันข้ามกลับต้องขึ้นอยู่กับแรงกดดันและการจัดการปัญหาของมหาอำนาจภายนอกประเทศ .- สำนักข่าวไทย