วอชิงตัน 21 ธ.ค.- รอยเตอร์คาดว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะต้องเผชิญหนทางที่ยากลำบากในปีหน้า หลังจากเผชิญปัญหาเข้าขั้นวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
รอยเตอร์ระบุว่า ปีหน้าการสอบสวนของอัยการพิเศษเรื่องคณะหาเสียงของทรัมป์คบคิดกับรัสเซียในการเลือกตั้งปี 2559 จะทวีความเข้มข้นขึ้น เช่นเดียวกับการสอบสวนในสภาเรื่องธุรกิจของเขาและครอบครัวรวมทั้งสมาชิกในรัฐบาลที่จะดุเดือดขึ้น เพราะพรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่เดือนมกราคมเนื่องจากชนะเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อเดือนพฤศจิกายน
รอยเตอร์มองว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เผชิญวิกฤตระลอกแล้วระลอกเล่า เริ่มจากการปลดนายไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อต้นปี 2560 ทั้งที่รัฐบาลเพิ่งบริหารประเทศได้ไม่กี่วัน ตามด้วยการปลดนายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และเจ้าหน้าที่คนสำคัญหลายคน เช่น นายเจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรียุติธรรม นายจอห์น เคลลี หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของประธานาธิบดี
ล่าสุดเกิดหลายปัญหาพร้อมกันในวันพฤหัสบดีวันเดียว เมื่อ พล.อ.เจมส์ แมตทิส ผู้เป็นที่เคารพอย่างกว้างขวางว่าช่วยสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลทรัมป์ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม หลังจากแสดงความเห็นขัดแย้งเรื่องนโยบายต่างประเทศในการประชุมที่ทำเนียบขาวกับประธานาธิบดี หนังสือลาออกของ พล.อ.แมตทิสระบุว่า ทั้งคู่มีความแตกต่างด้านนโยบายในระดับพื้นฐาน และวิจารณ์ประธานาธิบดีเป็นนัย ๆ ว่า ไม่ให้เกียรติพันธมิตรในต่างประเทศ ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ทรัมป์ประกาศถอนทหารออกจากซีเรีย นอกจากนี้ยังประกาศจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน และไม่ยอมลงนามร่างงบประมาณฉุกเฉินเลี่ยงการปิดที่ทำการรัฐบางส่วนในวันเสาร์หากไม่ได้งบสร้างกำแพงเม็กซิโก.-สำนักข่าวไทย