ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ไทยก็ไม่รับอำนาจศาลโลก อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา ที่จะดำเนินการไปอย่างไร โดยเราไม่อยากคุยเรื่องเหล่านั้น ขณะนี้ไทยจำกัดเหตุเฉพาะที่เกิดความขัดแย้ง คือจุดที่เกิดการปะทะ ว่าตรงนั้นเป็นอย่างไร ก็เสนอของตนเองก็คือว่า ให้ถอยทหารออกไปเหมือนปี 2024 ที่เคยตกลงกันไว้ ให้ทหารกัมพูชากลับไปอยู่ตรงศาลาตรีมุข ซึ่งเรื่องนี้ไทยไม่ขัดข้อง โดยให้ถอยทหารออกไป 150 ถึง 200 เมตร เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ก็ใช้กลไกเจบีซีและคุยอย่างมีเหตุมีผล นำแผนที่มาหารือกัน ถ้าสมมติว่าติดขัดยังไม่สามารถตกลงได้ ให้ตัวแทนเจบีซีที่เป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคลงไปดู ในพื้นที่เกิดเหตุจริง เพื่อที่จะได้ดูในรายละเอียดก่อนที่จะสรุป นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยถึง มาตรการต่างๆซึ่งถ้าหากยังคุยไม่ได้เรามีความจำเป็นเราก็มีความจำเป็น ที่ต้องเพิ่มมาตรการ ซึ่งทางกัมพูชาเองก็อยากจะหลีกเลี่ยง สงคราม ไม่อยากให้เกิด เพราะรู้สึกเป็นเพื่อนกันมาทุกระดับชั้นก็พูดคุยกันได้ โดยไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย จึงได้ฝากเรื่องที่เสนอ ซึ่งทางกัมพูชาก็ตอบมาว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ จึงขอให้ไปนำเรียนพลเอกฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา
นายภูมิธรรม กล่าวว่าหลังการหารือเมื่อวานนี้ทหารกัมพูชาก็ยังไม่ได้ถอยจากจุดที่เป็นปัญหา อยู่ในขณะนี้
ส่วนที่นักวิชาการเสนอว่าให้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมา ดูแลและเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลในเรื่องนี้นายภูมิธรรมเห็นว่า ได้ทำอยู่แล้ว สภาความมั่นคงแห่งชาติก็ได้เตรียมการทั้งหมด กระทรวงการต่างประเทศก็ประสานอยู่ และให้สภาความมั่นคงประชุมชุดเล็กไปก่อน โดยในวันนี้ก็ได้มีการประชุมสภาความมั่นคงที่มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามการประชุมเจบีซีในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติ แต่ทั้งนี้ก็ขอความร่วมมือให้ระมัดระวังเรื่องการนำเสนอข่าว
“ไม่ใช่อยู่ๆมาบอกว่าตนเองบินไปกัมพูชาทัวร์ก็ลงอีกว่า ไม่มีศักดิ์ศรี ผมว่าเลิกสิ่งเหล่านี้เถอะ เพราะทำให้การทำงานการแก้ปัญหายากขึ้น ผมไม่ได้กลัวสงคราม ให้ดูจากสงครามที่ยูเครน สิ่งที่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย คนที่โดนก่อนคนแรกคือทหารที่อยู่แนวหน้า กับประชาชนที่อยู่ชายแดน ขอเถอะครับเรื่องนี้เราไม่ได้กลัว ถ้ามันจำเป็น มันก็ต้องเกิดแต่ว่า อย่าเที่ยวยุให้ ไปมีสงครามเลย สงครามไม่เคยดีกับใคร ดังนั้นข่าวควรที่จะระมัดระวัง อยู่ๆ พอเห็นก็รีบโพสต์ ขอให้ดูข้อเท็จจริงก่อน ที่ไม่พูดก็เพราะอยากจะไปพบกันก่อน หรือเจอกันเงียบๆไม่อยากเจอกันท่ามกลางสื่อ นั่งคุยกันซึ่งก็กะอยู่แล้ว เมื่อคุยกันแล้วและมีข้อสรุปก็จะมาแจ้ง บางครั้งการเจรจาการแก้ปัญหา ไม่จำเป็นต้องอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกครั้ง ผมอยากให้เข้าใจแบบนี้บางทีที่ปิดก็ไม่อยากปิด” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม ย้ำว่า การหารือเมื่อวานนี้ไทยอยากจะพูดคุย ซึ่งทางการกัมพูชา ทางกัมพูชา ก็ไม่ได้ติดและก็ได้ เป็นฝ่ายเดินทางเข้ามา ที่จังหวัดสระแก้ว .314.-สำนักข่าวไทย