สเปน 30 ต.ค.- ประเทศสเปนมีเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับผู้คนที่เดินตามท้องถนนมากกว่ารถรา ที่ใช้สัญจรกันภายในเมือง และออกกฎห้ามรถเข้ามาวิ่งภายในใจกลางเมือง
การเดินเป็นวิธีเดินทางของผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองปอนเตเวดรา เมืองเก่าแก่สมัยยุคกลางทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทางการท้องถิ่นของเมือง ซึ่งมีประชากรเพียง 80,000 คน ได้ดำเนินนโยบายลดการใช้รถยนต์บนท้องถนน และส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางด้วยการเดินเท้าแทน นโยบายดังกล่าวทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของรถยนต์น้อยลง มลพิษทางอากาศลดลง เช่นเดียวกับอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน
มิเกล อันโซ เฟอร์นานเดซ ลอเรส นายกเทศมนตรีเมืองปอนเตเวดรา ซึ่งเป็นผู้ผลักดันนโยบายนี้บอกว่า เราเปลี่ยนความคิดของผู้คน ดึงพื้นที่คืนจากรถยนต์ส่วนตัวและเพิ่มพื้นที่ให้กับคนเดินถนน โดยร้อยละ 70 เป็นพื้นที่ สำหรับคนเดินถนน และร้อยละ 27-30 สำหรับรถยนต์
รถยนต์เกือบทั้งหมดถูกห้ามเข้ามาภายในเขตชั้นในของเมือง และอนุญาตให้เข้าได้แต่ประชาชน คนทำงาน รถพยาบาล รถแท็กซี่และรถส่งของเท่านั้น รถยนต์สามารถใช้ความเร็วบนท้องถนนได้เพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอนุญาตให้จอดรถได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น ส่วนบนพื้นถนนไม่แบ่งเป็นทางเท้าสำหรับคนเดินเท้าและช่องจราจรสำหรับรถวิ่งทำให้คนเดินเท้าสามารถ.-สำนักข่าวไทย