จาการ์ตา 19 เม.ย.- ผู้ผลิตไบโอดีเซลของอินโดนีเซียกำลังเร่งเพิ่มการส่งออก หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ยกเลิกการเก็บภาษีทุ่มตลาดกับผู้ผลิตบางราย ขณะที่มาเลเซียซึ่งส่งออกไบโอดีเซลราคาแพงกว่าเสี่ยงเสียส่วนแบ่งตลาด
ศาลสถิติยุติธรรมยุโรปซึ่งเป็นศาลสูงสุดของอียูมีคำตัดสินเมื่อเดือนก่อนให้อียูยกเลิกการเก็บภาษีทุ่มตลาดร้อยละ 8.8-23.3 กับไบโอดีเซลนำเข้าจากอินโดนีเซียตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม หลังจากบังคับใช้กับบริษัทอินโดนีเซียและอาร์เจนตินามาตั้งแต่ปี 2556 คำตัดสินนี้เป็นประโยชน์อย่างมากกับอินโดนีเซีย ผู้ผลิตไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่จะทำให้มาเลเซียเสียส่วนแบ่งตลาด เพราะส่งออกแพงกว่าอินโดนีเซียตันละ 30-40 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 936-1,250 บาท) เนื่องจากขนาดอุตสาหกรรมเล็กกว่า
ประธานสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลอินโดนีเซียเผยว่า ผู้ผลิตบางรายเริ่มส่งออกไปยุโรปแล้ว คาดว่ายอดส่งออกไปอียูปีนี้จะอยู่ที่ 432,000 ตัน เทียบจากปีก่อนที่แทบไม่ได้ส่งออกไปเลย ขณะที่ประธานสมาคมไบโอดีเซลมาเลเซียกล่าวว่า ปีที่แล้วยอดส่งออกดีมาก สามารถส่งออกถึง 235,000 ตัน เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 83,000 ตันในปีก่อนหน้านั้น เพราะมีช่องทางส่งออกไปอียู แต่ตอนนี้มาเลเซียเสียความสามารถในการแข่งขันแล้ว อย่างไรก็ดี นักค้าบางคนเตือนว่า ไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันของอินโดนีเซียอาจต้องแข่งขันหนักกับไบโอดีเซลจากถั่วเหลืองที่มีราคาพอ ๆ กัน.-สำนักข่าวไทย