โคโลญ 18 เม.ย.- สำนักงานความปลอดภัยการบินยุโรป (อีซา) ได้สั่งตั้งแต่เดือนก่อนให้ตรวจสอบเครื่องยนต์เครื่องบินตั้งแต่ยังไม่เกิดเหตุเครื่องยนต์ชนิดเดียวกันระเบิดทะลุกระจกหน้าต่าง ทำให้ผู้โดยสารสตรีของสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ถูกดูดจนเกือบหลุดออกไปนอกเครื่องและเสียชีวิตเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ
อีซามีคำสั่งเรื่องความสมควรเดินอากาศตั้งแต่เดือนมีนาคม ให้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงตรวจสอบใบพัดพัดลมของเครื่องยนต์รุ่น CFM56 ทีละใบ ตามที่ซีเอฟเอ็มอินเตอร์เนชันนัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์เสนอแนะในเอกสารแจ้งความทางเทคนิคจากผู้ผลิต เนื่องจากพบว่าใบพัดของเครื่องยนต์รุ่นนี้เครื่องหนึ่งแตกกระจายอย่างไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์และเครื่องบินเสียหาย
ข้อเสนอแนะนี้มีเนื้อหาเดียวกับที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (เอฟเอเอ) ของสหรัฐออกข้อเสนอหลังเกิดเหตุเครื่องบินของเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ลงจอดฉุกเฉินฉุกเฉินที่รัฐฟลอริดาเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ครั้งนั้นใบพัดเครื่องยนต์หลุดออกมาจากเครื่องยนต์รุ่น CFM56 ชิ้นส่วนกระเด็นไปทำให้ด้านบนของปีกซ้ายเครื่องบินเป็นรูกว้างร่วมฟุต โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร เจ้าหน้าที่ตรวจพบร่องรอยความล้าของโลหะ เป็นความเสียหายที่เกิดจากการรับภาระแรงซ้ำ ๆ หรือแรงที่ไม่คงที่
เอฟเอเอประเมินว่า มีเครื่องยนต์ 220 เครื่องของเครื่องบินจดทะเบียนในสหรัฐเข้าข่ายต้องตรวจใบพัดพัดลมด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง กำหนดให้การตรวจสอบแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง เครื่องยนต์ที่ใช้งานมามากกว่า 15,000 เที่ยวหลังการตรวจสอบครั้งหลังสุดจะต้องรับการตรวจภายใน 6 เดือน ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้งานต่ำกว่านั้นต้องรับการตรวจภายใน 18 เดือน
ส่วนเหตุเครื่องบินโบอิง 737 ของเซาท์เวสต์แอร์ไลน์เที่ยวบิน1380 ลงจอดฉุกเฉินที่เมืองฟิลาเดลเฟียเมื่อวานนี้ หลังจากเครื่องยนต์ระเบิดกลางอากาศ ชิ้นส่วนทะลุกระจกหน้าต่างแตก ทำให้ผู้โดยสารสตรีวัย 43 ปี ถูกดูดจนเกือบหลุดออกจากเครื่องและเสียชีวิตในเวลาต่อมา สายการบินเผยว่ากำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน.- สำนักข่าวไทย