เตหะราน 6 ม.ค.- อิหร่านเยาะเย้ยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐว่า ดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างซุ่มซ่าม หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ไม่รับข้อเสนอสหรัฐให้ประชุมด่วนเรื่องการประท้วงในอิหร่าน
นายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านทวีตวันนี้ว่า ยูเอ็นเอสซีได้หยุดยั้งสหรัฐที่พยายามจะยึดอำนาจยูเอ็นเอสซีอย่างโจ่งแจ้ง เสียงส่วนใหญ่ย้ำว่าจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์อย่างครบถ้วนและงดแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างซุ่มซ่ามของรัฐบาลทรัมป์อีกครั้ง
นางนิกกี ฮาร์ลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นเรียกร้องให้ยูเอ็นเอสซีเปิดประชุมฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ เพื่อหารือเรื่องการประท้วง 5 วันในอิหร่านที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมโดยอ้างว่า สถานการณ์อาจลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งเต็มรูปแบบและอาจกลายเป็นสงครามกลางเมืองเหมือนซีเรีย แต่ถูกเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นแย้งกลับว่า หากจะยึดตามสิ่งที่สหรัฐพูด ยูเอ็นเอสซีก็ควรต้องเปิดประชุมฉุกเฉินเรื่องเหตุไม่สงบชานเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรีของสหรัฐปี 2557 ที่ตำรวจยิงวัยรุ่นผิวดำเสียชีวิต หรือเหตุการณ์ที่สหรัฐใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ยึดวอลล์สตรีทประท้วงความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมในปี 2554
ด้านเอกอัครราชทูตอังกฤษและฝรั่งเศสย้ำว่า อิหร่านจะต้องเคารพสิทธิผู้ประท้วง โดยที่ฝรั่งเศสเสริมว่าเหตุการณ์ในอิหร่านไม่เป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงสากล ขณะที่เอกอัครราชทูตจีนกล่าวว่า การประชุมฉุกเฉินจะเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของอิหร่าน ส่วนเอธิโอเปีย คูเวต และสวีเดน ซึ่งอยู่ในสมาชิกไม่ถาวร 10 ชาติขอสงวนสิทธิไม่ออกความเห็น ขณะที่เอกอัครราชทูตอิหร่านตำหนิว่า เป็นเรื่องตลกและเสียเวลา ยูเอ็นเอสซีควรมุ่งหาทางแก้ปัญหาอิสราเอล-ปาเลสไตน์หรือสงครามเยเมนที่ยืดเยื้อจะดีกว่า.-สำนักข่าวไทย