กัมพูชา 15 ธ.ค.- โตนเลสาบแหล่งน้ำจืดสำคัญของกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากการจับปลาน้ำจืดในปริมาณที่มากเกินไป
โตนเลสาบ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศกัมพูชา เป็นแหล่งน้ำจืดที่หล่อเลี้ยงหลายล้านชีวิตชาวกัมพูชามาหลายศตวรรษ แต่ละปีชาวประมงสามารถจับปลาได้ราว 3 แสนตันจากทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในแหล่งจับปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ขณะนี้โตนเลสาบกำลังประสบกับภาวะวิกฤตจากการที่สภาพนิเวศถูกทำลายจนเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่าบริเวณป่าโกงกางรอบโตนเลสาบ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากหลายชนิด ถูกทำลายและถูกรุกล้ำจากจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่มีการจับปลาน้ำจืดกันในปริมาณที่มากเกินไป รวมทั้งการทำลายป่าโกงกางที่เป็นแหล่งพักพิงของปลา ล้วนมีส่วนทำให้ปริมาณปลาในโตนเลสาบลดลงกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อปีที่แล้ว กองทุนธรรมชาติโลก ระบุสถานการณ์ของโตนเลสาบว่าอยู่ในภาวะวิกฤต ชาวประมงที่อาศัยอยู่ในโตนเลสาบคนหนึ่งเล่าว่า เมื่อก่อนเคยจับปลาได้เป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้จับปลาได้น้อยมาก ยิ่งไปกว่านี้ กลิ่นเหม็นในโตนเลสาบก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากองค์การนอกภาครัฐ ระบุ การก่อสร้างเขื่อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำซึ่งผุดขึ้นหลายโครงการล้วนส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในโตนเลสาบ รวมทั้ง ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการอพยพย้ายถิ่นของสัตว์น้ำในโตนเลสาบ นอกจากสภาพแวดล้อมในโตนเลสาบจะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนแล้ว มีรายงานว่า การสร้างเขื่อนของลาวก็เริ่มส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำในแม่น้ำโขงเช่นกัน ด้านรัฐบาลกัมพูชาระบุ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมของโตนเลสาบ.-สำนักข่าวไทย