วอชิงตัน 24 ก.ค. – สหรัฐยกเลิกการคว่ำบาตรกลุ่มบุคคลที่เป็นพันธมิตรกับนายทหารในรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อวานนี้ หลังจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ผู้นำรัฐบาลทหารได้กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรในจดหมายตอบไปยังสหรัฐที่เตือนเรื่องมาตรการภาษี
กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” (Human Rights Watch) เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “น่ากังวลอย่างยิ่ง” และระบุว่าเป็นการบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของนโยบายของสหรัฐต่อกองทัพเมียนมา ซึ่งได้โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในปี 2564 และถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ประกาศจากกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า บริษัท เคที เซอร์วิสเซส แอนด์ โลจิสติกส์ (KT Services & Logistics) และผู้ก่อตั้งคือ โจนาทาน เมียว จ่อ ต่อง (Jonathan Myo Kyaw Thaung) กลุ่มบริษัท เอ็มซีเอ็ม กรุ้ป (MCM Group) และเจ้าของคือ อ่อง หล่าย อู (Aung Hlaing Oo) และบริษัท ซันแทค เทคโนโลจีส์ (Suntac Technologies) และเจ้าของคือ ซิต ไถ่อ่อง (Sit Taing Aung) รวมถึงบุคคลอีกคนหนึ่งคือ ถิ่น ลัตมิน (Tin Latt Min) ได้ถูกถอดออกจากบัญชีคว่ำบาตรของสหรัฐ
“เคที เซอร์วิสเซส แอนด์ โลจิสติกส์” และ โจนาทาน เมียว จ่อ ต่อง ถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีคว่ำบาตรเมื่อเดือนมกราคม 2565 สมัยที่นายโจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรการที่กำหนดขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 1 ปีของการที่กองทัพเข้ายึดอำนาจในเมียนมา
ซิต ไถ่อ่อง และ อ่อง หล่าย อู ถูกขึ้นบัญชีคว่ำบาตรในปีเดียวกัน เนื่องจากดำเนินธุรกิจในภาคกลาโหมของเมียนมา ส่วน ถิ่น ลัตมิน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ปกครองทางทหารอีกคนหนึ่ง ถูกขึ้นบัญชีเมื่อปี 2567 เนื่องในวาระครบรอบ 3 ปีของการก่อรัฐประหาร
กระทรวงการคลังสหรัฐไม่ได้อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นายพลอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ได้ส่งจดหมายถึงนายทรัมป์ เพื่อขอให้ลดอัตราภาษีร้อยละ 40 ที่สหรัฐประกาศจะเรียกเก็บจากสินค้าส่งออกของเมียนมาไปยังสหรัฐ และกล่าวว่าเขาพร้อมที่จะส่งทีมเจรจาไปยังกรุงวอชิงตัน หากจำเป็น
สื่อของทางการเมียนมากล่าวว่า ในจดหมายดังกล่าว พลเอกอาวุโสยอมรับความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของชาติด้วยจิตวิญญาณของชาตินิยมที่แท้จริง และผู้นำเมียนมาได้เสนอให้สหรัฐลดอัตราภาษีให้เหลือระหว่างร้อยละ 10-20 โดยเมียนมาจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ลงเหลือระหว่าง 0 ถึงร้อยละ 10
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ยังได้ขอให้นายทรัมป์ พิจารณาผ่อนคลายและยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่บังคับใช้กับเมียนมา เนื่องจากมาตรการเหล่านั้นเป็นอุปสรรคต่อผลประโยชน์ร่วมกันและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศและประชาชน.-813.-สำนักข่าวไทย