วอชิงตัน 31 ม.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโดยไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ ว่าแนวทางสนับสนุนความหลากหลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐ ที่สนามบินในกรุงวอชิงตัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 67 ราย ซึ่งเป็นอุบัติภัยทางอากาศครั้งร้ายแรงในสหรัฐ ในรอบกว่า 20 ปี
นายทรัมป์ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตำหนินักบินเฮลิคอปเตอร์ และกล่าวว่าเขายังไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศที่เกี่ยวข้อง ต้องถูกกล่าวโทษในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยหรือไม่ นายทรัมป์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้คืออะไร แต่ก็มีแนวคิดและความเห็นที่ชัดเจนมากๆ
นายทรัมป์กล่าวโทษรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าลดมาตรฐานการจ้างงาน และชี้ว่าการผลักดันเรื่องความหลากหลายของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ หรือ เอฟเอเอ ทำให้ประสทธิภาพของเจ้าหน้าที่ลดลง เขากล่าวว่า เอฟเอเอ ผลักดันให้มีการจ้างงานด้วยความหลากหลาย ซึ่งเน้นการจ้างบุคคลที่ไร้ความสามารถทางด้านสติปัญญาและทางจิตอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าแนวทางการทำให้พนักงานมีความหลากหลายส่งผลต่อการรักษาความปลอดภัยทางอากาศ ความหลากหลายที่ว่านี้คือแนวทาง ดีอีไอ ได้แก่ ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม
การสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้เพิ่งเริ่มต้น และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดเครื่องบินที่ผลิตโดยบริษัทบอมบาร์ดิเอร์ ของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ที่มีผู้โดยสาร 60 คน และลูกเรือ 4 คน ชนกับเฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์ก ของกองทัพสหรัฐ ในขณะที่เครื่องบินกำลังเตรียมจะลงจอดที่สนามบินเรแกน วอชิงตัน เนชั่นแนล แอร์พอร์ต
นายฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีคมนาคม กล่าวว่า อากาศยานทั้ง 2 ลำ บินตามมาตรฐานการบินและการสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาติดขัดใดๆ โดยเสียงที่มีการสื่อสารกันแสดงให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศแจ้งเตือนเฮลิคอปเตอร์ว่าเครื่องบินกำลังเข้ามาที่สนามบิน และสั่งการให้เฮลิคอปเตอร์เปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลบเลี่ยงการชน.-813.-สำนักข่าวไทย