อินเดีย 28 ส.ค. – รูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของคนอินเดีย ทำให้เกิดปัญหาโรคเบาหวานในเด็กๆ มากขึ้น ปัญหาจะรุนแรงขนาดไหน ติดตามในสารคดีโลก
โรฮิน ซาริน หนุ่มน้อยวัย 15 ปี รู้สึกเวียนศีรษะขณะเล่นเกมในเครื่องเล่นเพลย์สเตชั่น เนื่องจากระดับน้ำตาลตก ทำให้ต้องรีบไปหยิบอินซูลินมาฉีดให้ตัวเอง ซารินเป็นหนึ่งในวัยรุ่นชาวอินเดียจำนวนไม่น้อยที่เป็น เบาหวานตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ละวันต้องฉีดอินซูริน 3 ครั้ง
เศรษฐกิจของอินเดียที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้วิถีชีวิตของคนอินเดียเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนนิยมออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน และมักรับประทานอาหารขยะแบบตะวันตกที่หลั่งไหลเข้ามาตามกระแสโลกาภิวัตน์ ทำให้คนอินเดียเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานกันมากขึ้น เกือบร้อยละ 30 ของวัยรุ่นอินเดียเป็นโรคอ้วน หรือเกือบสองเท่าของเมื่อปี 2553
ดร.โมนิกา อาโรรา ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบอกว่า ทุกวันนี้ผู้คนมีวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะวัยรุ่นและเด็กๆ นิยมรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
อินเดียมีผู้ป่วยเบาหวาน 70 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวเกิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตหรือใช้อินซูลินไปเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานได้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 1 ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินเองได้ จำเป็นต้องเอาใจใส่กับการรับประทานอาหารและออกกำลังกายไปตลอดชีวิต รวมถึงรับการรักษาที่เหมาะสมจากแพทย์
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อินเดียมีแนวโน้มจะมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มเป็น 120 ล้านคน หรือเกือบร้อยละ 10 ของประชากร ภายใน 8 ปีข้างหน้า รัฐบาลอินเดียกำลังแก้ปัญหานี้ด้วยการคัดกรองประชากร 500 ล้านคน ในวัยตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เพื่อตรวจหาโรคเบาหวานและโรคไม่ติดต่ออื่นๆ ภายในปี 2562
ดร.อาโรรา หวังว่าหากรัฐบาลนำมาตรการที่เหมาะสมมาใช้ได้ทันเวลา จะช่วยให้อินเดียรับมือกับปัญหานี้ได้ และเรียนรู้วิธีการจากประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อเป็นแนวทางช่วยให้อินเดียรอดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้โดยไม่ต้องประสบปัญหาอย่างที่ประเทศพัฒนาแล้วเคยเผชิญมา. – สำนักข่าวไทย