ลอนดอน 26 ก.ย.- ผลการศึกษาใหม่พบว่า วิกฤตค่าครองชีพสูงในสหราชอาณาจักรเพราะอัตราเงินเฟ้อกำลังจะทำให้คนมีอายุสั้นลง และทำให้ความเหลื่อมล้ำทางฐานะและสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารบีเอ็มเจ พับลิก เฮลธ์ (BMJ Public Health) เมื่อวันจันทร์ระบุว่า คณะนักวิจัยได้ศึกษาผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่มีต่ออัตราการเสียชีวิตในสกอตแลนด์ระหว่างปี 2565-2566 ในกรณีที่รัฐบาลมีและไม่มีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน แล้วนำข้อมูลนี้มาคาดการณ์อายุขัยและความเหลื่อมล้ำในสหราชอาณาจักรโดยรวม
ผลการศึกษาคาดการณ์ว่า ในกรณีที่รัฐบาลมีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน สหราชอาณาจักรจะมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรคือก่อนอายุ 75 ปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในพื้นที่ขาดแคลนน้อยที่สุด และเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ในพื้นที่ขาดแคลนมากที่สุด หรือเฉลี่ยรวมที่ร้อยละ 6.5 ส่วนในกรณีที่รัฐบาลไม่มีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มเป็นร้อยละ 5 ในพื้นที่ขาดแคลนน้อยที่สุด และร้อยละ 23 ในพื้นที่ขาดแคลนมากที่สุด ผลการศึกษาคาดการณ์ด้วยว่า ครัวเรือนขาดแคลนที่สุดจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 4 เท่าของครัวเรือนร่ำรวยที่สุด เพราะต้องใช้เงินมากขึ้นไปกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น
อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในเดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 6.7 แม้ว่าลดลงจากที่เคยสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ร้อยละ 11.1 ในเดือนตุลาคม 2565 แต่ก็ยังคงสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 เพราะหลายปัจจัยรวมกันทั้งการล็อกดาวน์เพราะโรคโควิด-19 การออกจากสหภาพยุโรปหรือที่เรียกว่าเบร็กซิต และสงครามในยูเครน.-สำนักข่าวไทย