ลอสแอนเจลิส 21 มิ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การค้นหายานใต้น้ำที่สูญหายไปขณะพาคนไปชมซากเรือไททานิคใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือมีความยากลำบากและเวิ้งว้างราวกับอยู่ในอวกาศ
ทีมค้นหาจากหลายประเทศกำลังเร่งแข่งกับเวลาในการหาทางระบุตำแหน่งของยานใต้น้ำไททัน (Titan) ที่มีขนาดพอ ๆ กับวาฬเพชรฆาต เนื่องจากออกซิเจนในยานซึ่งใช้ได้ 96 ชั่วโมงสำหรับคน 5 คน มีแนวโน้มจะหมดในอีก 1 วันครึ่ง ยานเริ่มลงไปในใต้น้ำตั้งแต่วันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ และขาดการติดต่อไปในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา นายทิม มัลติน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเรือไททานิคให้สัมภาษณ์เอ็นบีซี นิวส์ นาว ว่า การค้นหาอย่างละเอียดในน่านน้ำเป้าหมาย 20,000 ตารางกิโลเมตรของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่ระดับความลึกกว่า 3.2 กิโลเมตร ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะก้นมหาสมุทรมีแต่ความมืดและหนาวเย็น เต็มไปด้วยโคลนและมีสภาพเป็นลอนคลื่น มองไม่เห็นแม้กระทั่งมือที่อยู่ตรงหน้า เป็นความเวิ้งว้างราวกับอยู่ในอวกาศ
หัวหน้าหน่วยยามฝั่งสหรัฐที่ประสานงานปฏิบัติการค้นหาเผยว่า เป็นภารกิจที่ยากอย่างเหลือเชื่อและเกินกว่าที่หน่วยยามฝั่งเคยรับมือมาก่อน เนื่องจากหน่วยยามฝั่งซึ่งปกติทำหน้าที่ประสานงานในการค้นหาและกู้ภัย ไม่มีความชำนาญและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการค้นหาที่มีความซับซ้อนในลักษณะนี้ ต้องอาศัยหลายหน่วยงานที่มีความชำนาญด้านนี้และอุปกรณ์พิเศษ ทีมค้นหาได้ใช้เครื่องบินลำเลียงซี-130 ค้นหาบนผิวน้ำด้วยสายตาและเรดาร์ ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องบินพี3 ค้นหาใต้ผิวน้ำด้วยทุ่นโซนาร์ที่หย่อนลงไป แต่จนถึงขณะนี้ยังคงไม่เป็นผล
นักวิชาการด้านนิติธรณีวิทยาของอังกฤษชี้ว่า หากยานใต้น้ำจมอยู่บนก้นมหาสมุทรก็จะสังเกตเห็นได้ยากมาก เนื่องจากก้นมหาสมุทรไม่ใช่พื้นที่ราบ แต่เต็มไปด้วยเนินเขาและหุบเขา นอกจากนี้ก้นมหาสมุทรที่ระดับความลึก 4 กิโลเมตรยังมีแรงกดดันมหาศาลมากถึง 400 เท่าของระดับผิวน้ำทะเล ทำให้อุปกรณ์ค้นหาทำงานได้ยากขึ้น และมีเรือไม่กี่ลำที่จะรอดจากความลึกระดับนี้.-สำนักข่าวไทย