วอชิงตัน 27 พ.ค.- สำนักข่าวเอเอฟพีวิเคราะห์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น หากสหรัฐไม่สามารถขยายเพดานหนี้ได้ก่อนวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็นเส้นตายใหม่ที่กระทรวงการคลังสหรัฐคาดการณ์ว่าจะทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก
เอเอฟพีมองว่า กระทรวงการคลังอาจเลือกชะลอการจ่ายเงินบางอย่างในโครงการสวัสดิการสังคม โครงการประกันสุขภาพทั้งเมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเคด (Medicaid) ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์หลายล้านคน หรืออาจเลือกงดจ่ายเงินบางส่วนอย่างถ้วนหน้า ซึ่งจะลดผลกระทบต่อผู้รับประโยชน์ข้างต้น แต่จะทำให้บริการภาครัฐได้รับผลกระทบมากขึ้น หากกระทรวงการคลังสามารถประคองไปได้จนถึงวันที่ 15 มิถุนายนโดยไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปได้
รัฐบาลกลางสหรัฐกู้ยืมจนถึงเพดานที่กำหนดไว้ที่กว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1,076 ล้านล้านบาท) เมื่อกลางเดือนมกราคม จากนั้นได้ใช้มาตรการทางบัญชีพิเศษเพื่อขยายอายุงบประมาณที่ได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายได้โดยไม่ได้ขยายเพดานการกู้ยืม แต่เมื่อถึงเส้นตายซึ่งคือวันที่ 5 มิถุนายนในปัจจุบัน รัฐบาลจะมีเงินใช้จ่ายจากภาษีที่เก็บได้เท่านั้น ศูนย์นโยบาย 2 พรรค (Bipartisan Policy Center) วิเคราะห์ว่า รัฐบาลจะเก็บภาษีรายได้บุคคลและนิติบุคคลรายไตรมาสได้ประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.78 ล้านล้านบาท) โดยในระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน กระทรวงการคลังจะขาดแคลนงบประมาณมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 3.47 ล้านล้านบาท)
การที่กระทรวงการคลังขยายเส้นตายจาก 1 มิถุนายน 2566 เป็น 5 มิถุนายน 2566 ทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตและนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันมีเวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการเจรจาขยายเพดานหนี้ แต่สุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดยาวเนื่องในวันเมมโมเรียลเดย์ (Memorial Day) ยกย่องทหารอเมริกันผู้พลีชีพในสงคราม ซึ่งตรงกับวันจันทร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม และเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนที่ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูการท่องเที่ยวด้วย แต่ละวันที่ผ่านไปคือโอกาสเพิ่มขึ้นที่สหรัฐจะตกเข้าสู่วันที่เรียกว่าเอ็กซ์เดต (X-date) คือวันที่สหรัฐไม่สามารถชำระหนี้ที่มีอยู่ได้ทุกอย่าง.-สำนักข่าวไทย