สภาผู้แทนฯ สหรัฐเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณ-เลี่ยงการชัตดาวน์

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาล

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

Trump-backed spending deal fails in House, shutdown approaches

สหรัฐจ่อ “ชัตดาวน์” เหตุขัดแย้งงบประมาณ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- สหรัฐเผชิญวิกฤติงบประมาณต้องระงับการทำงานของหน่วยงานรัฐหรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณใหม่ โดยหากไม่มีทางออกก็จะต้องชัตดาวน์ในวันเสาร์นี้ วิกฤติครั้งนี้มองกันว่าเริ่มต้นมาจากนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่จะทำหน้าที่ในรัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นายมัสก์ต่อต้านร่างกฎหมายงบประมาณเดิม ทำให้นายทรัมป์ต่อต้านไปด้วย ด้านพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์จึงได้เสนอร่างงบประมาณใหม่ขึ้นมาแทน แต่ด้วยเงื่อนไขที่ต่างไปจากเดิมทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่รับรองเช่นกัน จึงเสี่ยงที่จะไม่มีกฎหมายทันเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่หน่วยงานรัฐบาลจะไม่มีงบประมาณใช้ หรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์ ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป ร่างงบประมาณใหม่ที่ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐมีเนื้อหาไม่ต่างจากร่างงบประมาณที่นายทรัมป์และนายมัสก์ตำหนิว่าอ่อนข้อให้แก่พรรคเดโมแครตมากเกินไป โดยร่างงบประมาณใหม่ได้ขยายเวลาจัดสรรงบประมาณไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568 จัดสรรงบบรรเทาภัยพิบัติ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.46 ล้านล้านบาท) และระงับการใช้เพดานหนี้สาธารณะเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ทรัมป์สามารถผ่านมาตรการลดภาษีตามที่หาเสียงไว้ ขณะนี้ยังไม่ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐสภาจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากการอนุมัติงบประมาณต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสภาชุดปัจจุบันที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครตและสมาชิกวุฒิสภาอิสระคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา หากไม่มีทางออกจะเป็นการชัตดาวน์ช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีซ้ำสอง จากครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่างสมัยแรก และจะกระทบต่อการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนช่วงหยุดยาวคริสต์มาสและปีใหม่.-812(814).-สำนักข่าวไทย  

ส.ว. สหรัฐลงมติระงับการใช้เพดานหนี้

วอชิงตัน 2 มิ.ย.- สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สหรัฐลงมติระงับการใช้เพดานหนี้เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ปิดฉากการเจรจานานหลายสัปดาห์เรื่องการขยายเพดานหนี้ ก่อนที่สหรัฐอาจต้องผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในอีก 4 วันตามการคาดหมายของกระทรวงการคลัง ร่างกฎหมายความรับผิดชอบทางการคลัง (Fiscal Responsibility Act) ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตและแกนนำพรรครีพับลิกันตกลงร่วมกัน ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว.ด้วยเสียงข้างมาก 63 ต่อ 36 เสียง หลังจากได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ด้วยคะแนน 314 ต่อ 117 เสียงเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และจะนำเสนอให้ประธานาธิบดีไบเดนลงนามบังคับใช้ต่อไป ส.ว.ทั้ง 2 พรรคใช้เวลาอภิปรายร่างกฎหมายที่มีทั้งหมด 99 หน้าอย่างเคร่งเครียดถึง 11 ชั่วโมง ส.ว.สายกลาโหมไม่พอใจที่มีการจำกัดเพดานงบกลาโหมปี 2567 ไว้ตามที่รัฐบาลเสนอไว้ที่ 886,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30.62 ล้านล้านบาท) และขู่จะคว่ำร่างกฎหมายทั้งหมด จนกระทั่งมีการเสนอให้ออกร่างกฎหมายแยกต่างหากเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้ยูเครนสู้รบกับรัสเซีย การส่งเสริมผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐในตะวันออกกลางและในการรับมือกับจีนเรื่องไต้หวัน จึงเป็นอันยุติ รัฐบาลกลางสหรัฐใช้จ่ายเกินรายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี ทำให้ต้องกู้ยืมเงินผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล สมาชิกรัฐสภาจึงได้กำหนดเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางมาตั้งแต่เมื่อ 80 ปีก่อน […]

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเพิ่มเพดานหนี้แล้ว

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติในวันพุธตามเวลาท้องถิ่นให้ความเห็นชอบการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จะส่งผลกระทบสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

“ไบเดน” –พรรครีพับลิกันบรรลุข้อตกลงเพดานหนี้

นายเควิน แม็คคาธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและแกนนำพรรครีพับลิกันในรัฐสภาและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศบรรลุข้อตกลงร่วมกันเมื่อวานนี้ที่จะขยายเพดานหนี้ ทำให้สหรัฐรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ในขณะที่จะถึงกำหนดเส้นตายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสหรัฐขยายเพดานหนี้ไม่ทัน 5 มิ.ย.

วอชิงตัน 27 พ.ค.- สำนักข่าวเอเอฟพีวิเคราะห์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น หากสหรัฐไม่สามารถขยายเพดานหนี้ได้ก่อนวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็นเส้นตายใหม่ที่กระทรวงการคลังสหรัฐคาดการณ์ว่าจะทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก เอเอฟพีมองว่า กระทรวงการคลังอาจเลือกชะลอการจ่ายเงินบางอย่างในโครงการสวัสดิการสังคม โครงการประกันสุขภาพทั้งเมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเคด (Medicaid) ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์หลายล้านคน หรืออาจเลือกงดจ่ายเงินบางส่วนอย่างถ้วนหน้า ซึ่งจะลดผลกระทบต่อผู้รับประโยชน์ข้างต้น แต่จะทำให้บริการภาครัฐได้รับผลกระทบมากขึ้น หากกระทรวงการคลังสามารถประคองไปได้จนถึงวันที่ 15 มิถุนายนโดยไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปได้ รัฐบาลกลางสหรัฐกู้ยืมจนถึงเพดานที่กำหนดไว้ที่กว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1,076 ล้านล้านบาท) เมื่อกลางเดือนมกราคม จากนั้นได้ใช้มาตรการทางบัญชีพิเศษเพื่อขยายอายุงบประมาณที่ได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายได้โดยไม่ได้ขยายเพดานการกู้ยืม แต่เมื่อถึงเส้นตายซึ่งคือวันที่ 5 มิถุนายนในปัจจุบัน รัฐบาลจะมีเงินใช้จ่ายจากภาษีที่เก็บได้เท่านั้น ศูนย์นโยบาย 2 พรรค (Bipartisan Policy Center) วิเคราะห์ว่า รัฐบาลจะเก็บภาษีรายได้บุคคลและนิติบุคคลรายไตรมาสได้ประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.78 ล้านล้านบาท) โดยในระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน กระทรวงการคลังจะขาดแคลนงบประมาณมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

“ไบเดน” มีหวังเรื่องขยายเพดานหนี้หลังคลังขยายเส้นตาย

วอชิงตัน 27 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจากพรรคเดโมแครตและผู้เจรจาของพรรครีพับลิกันมีความคาดหวังในแง่ดีว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐขยายเส้นตายที่รัฐบาลจะผิดนัดชำระหนี้จาก 1 มิถุนายน 2566 เป็น 5 มิถุนายน 2566 ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับสื่อเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี ขณะที่ ส.ส.แพทริค แมคเฮนรี ที่อยู่ในคณะเจรจาของนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรเผยว่า มีความหวัง แต่ยังมีความท้าทายสำคัญรออยู่ เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีเงื่อนไขเรื่องภาษีและข้อตกลงที่ชัดเจน ทั้งคู่กล่าวเรื่องนี้หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่มีเงินชำระหนี้ภายในวันที่ 5 มิถุนายน จากเดิมที่เคยบอกว่าจะไม่มีเงินชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิถุนายนเป็นอย่างเร็วที่สุด คณะเจรจาของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเจรจากันมาหลายรอบเรื่องขยายเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,090 ล้านล้านบาท) ของรัฐบาลกลางออกไปเป็นเวลา 2 ปี ทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อตกลงคร่าว ๆ แล้วเรื่องจะตัดลดงบประมาณรายจ่ายปี 2567 อย่างไร แต่ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องโครงการสวัสดิการสังคม รีพับลิกันต้องการให้คนวัยต่ำกว่า 56 ปีที่ไม่มีบุตรต้องแสดงหลักฐานว่ามีงานทำหรือกำลังหางานทำจึงจะได้เข้าโครงการประกันสุขภาพเมดิเคด (Medicaid) […]

เตือนสหรัฐจะถูกลดอันดับเครดิตหากขยายเพดานหนี้ไม่ได้

วอชิงตัน 25 พ.ค.- บริษัทจัดอันดับเครดิตฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนสหรัฐว่า อันดับเครดิตที่ดีเยี่ยมของสหรัฐอาจถูกลดลง หากไม่สามารถผ่าทางตันเรื่องการขยายเพดานหนี้ให้ได้ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 มิถุนายน ฟิทช์คงอันดับเครดิตสหรัฐไว้ที่ทริปเปิ้ลเอ (AAA) เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ หมายถึงว่า มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดและมีความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่มีสัญญาณการปรับอันดับเครดิตเป็นลบ (rating watch negative) เพื่อสะท้อนว่าการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นกำลังขัดขวางการหาทางออกในการขยายหรืองดการใช้เพดานหนี้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน ฟิทช์ยังคงหวังว่า จะมีทางออกก่อนถึงเส้นตาย แต่ก็เชื่อว่ามีโอกาสมากขึ้นที่จะไม่มีการขยายหรืองดการใช้เพดานหนี้ก่อนถึงเส้นตาย และจะทำให้รัฐบาลสหรัฐเริ่มผิดนัดชำระหนี้ โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า ควรถือว่าการเคลื่อนไหวของฟิทช์เป็นการเตือนว่า รัฐสภาควรรีบดำเนินการโดยทันทีเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจต้องเผชิญกับวิกฤตที่ถูกสร้างขึ้นมา ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสนับสนุนว่า การผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ทางเลือก และตอกย้ำให้รัฐสภาต้องเร่งผ่านข้อตกลงสองฝ่ายที่สมเหตุสมผล รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงเมื่อวันพุธก่อนที่ฟิทช์จะจัดอันดับเครดิตในคืนวันเดียวกันว่า ยังเห็นลู่ทางที่จะบรรลุข้อตกลง นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวในงานที่มีขึ้นในวันเดียวกันว่า ได้ยื่นขอเสนอเจรจาล่าสุดด้วยการเสนอให้คงงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้เท่ากับปี 2566 ซึ่งจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34.73 ล้านล้านบาท) ขณะที่แหล่งข่าวเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้ยื่นข้อเสนอประนีประนอมในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องคืนงบเยียวยาโควิด-19 แต่พรรครีพับลิกันยืนกรานไม่ยอมรับเรื่องที่รัฐบาลจะลดการขาดดุลงบประมาณด้วยการขึ้นภาษีชาวอเมริกันและบริษัทอเมริกันที่ร่ำรวย รีพับลิกันอ้างว่า ข้อเสนอของพรรคจะลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ […]

ตลาดเอเชียพากันร่วงหลังเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐชะงัก

ตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียพากันปิดลดลงในวันนี้ ตามตลาดวอลล์สตรีทในสหรัฐที่ปิดลดลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลมากยิ่งขึ้นเรื่องการเจรจาขยายเพดานหนี้ที่ชะงักงัน และอาจทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก

“ไบเดน” จะเจรจาขยายเพดานหนี้อีกครั้งในวันนี้

วอชิงตัน 22 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจะเจรจากับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในบ่ายวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อขยายเพดานหนี้ให้ได้ก่อนถึงเส้นตายที่รัฐบาลจะผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายนตามการคาดการณ์ของกระทรวงคลัง ประธานาธิบดีไบเดนได้ลดกำหนดการเยือนเอเชียหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่ญี่ปุ่น และเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตันเมื่อค่ำวันอาทิตย์ เขาเผยกับสื่อว่าได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายแมคคาร์ธีขณะอยู่บนแอร์ฟอร์ซวันที่เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่ง การสนทนาเป็นไปด้วยดีและจะพบหารือกันอีกครั้งในวันจันทร์ ด้านนายแมคคาร์ธีเผยว่า การสนทนาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ อย่างไรก็ดี เขายืนยันในจุดยืนเดิมเรื่องรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าใช้จ่ายเงินทั้งที่ไม่มี แล้วปล่อยให้เป็นภาระของคนรุ่นหลัง ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีไบเดนแถลงข่าวก่อนเดินทางออกจากญี่ปุ่นว่า ข้อเรียกร้องล่าสุดของพรรครีพับลิกันที่ต้องการให้ลดงบประมาณรายจ่ายเป็นเงื่อนไขในการขยายเพดานหนี้รัฐบาลเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ เขาอาจจะใช้อำนาจของประธานาธิบดีขยายเพดานหนี้เองโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และทวีตย้ำว่าคัดค้านการลดงบประมาณรายจ่ายด้านสังคมและสุขภาพ ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐยืนยันในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี (NBC) เมื่อวันอาทิตย์ว่า วันที่ 1 มิถุนายนยังคงเป็นเส้นตายหลักที่รัฐบาลจะไม่มีเงินและผิดนัดชำระหนี้ หากไม่มีการขยายเพดานนี้จาก 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,069 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

รีพับลิกันพักเจรจาขยายเพดานหนี้

วอชิงตัน 20 พ.ค.- สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกเพิ่มขึ้นอีก เมื่อคณะเจรจาของพรรครีพับลิกันพักการเจรจาขยายเพดานหนี้เมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันกล่าวว่า จำเป็นต้องพักการเจรจา เพราะไม่สามารถให้งบประมาณปีหน้ามีรายจ่ายเพิ่มเติมได้ ทั้งที่เขาเพิ่งแสดงความเห็นในแง่ดีเมื่อวันก่อนว่า จะสามารถนำร่างขยายเพดานหนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ภายในสัปดาห์หน้า แต่ต้องมีข้อตกลงในหลักการให้ได้ภายในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ เว็บไซต์ข่าวการเมืองพันช์โบลว์นิวส์ (Punchbowl News) รายงานว่า แกนนำในคณะเจรจาของพรรครีพับลิกันออกจากห้องเจรจาอย่างกะทันหันพร้อมกันกับ ส.ส.แมคคาร์ธี และไม่กลับเข้าไปอีก มีรายงานว่า ประเด็นหลักที่คณะเจรจาของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตตกลงกันไม่ได้คือ การลดงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้เหลือเท่ากับปี 2565 ตามความต้องการของกลุ่มฟรีดอม คอคัส (Freedom Caucus) ที่มีสมาชิกราว 1 ใน 5 ของพรรครีพับลิกัน พรรครีพับลิกันตั้งเงื่อนไขว่า จะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องผิดนัดชำระหนี้ ต่อเมื่อรัฐบาลลดงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานรัฐบาลกลางและโครงการต่าง ๆ ทั้งหมดลง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.46 ล้านล้านบาท) เร่งเดินหน้าโครงการผลิตพลังงานในประเทศ ลดขั้นตอนการขออนุญาตวางท่อขนส่งน้ำมันและตั้งโรงกลั่นน้ำมัน และเรียกคืนงบเยียวยาโควิด-19 ที่ไม่ได้ใช้.-สำนักข่าวไทย

1 2
...