วอชิงตัน 2 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศวานนี้ว่า สหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยแก๊สที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ถอนตัวจากข้อตกลงปารีสปี 2015 ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดกระแสไม่พอใจไปทั่วโลก
ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลงที่ทำเนียบขาววานนี้ว่า สหรัฐจะยุติการดำเนินการตามข้อตกลงปารีส ที่ 195 ชาติลงนามให้ความเห็นชอบ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เขาไม่สามารถสนับสนุนข้อตกลงที่เป็นเหมือนการลงโทษสหรัฐได้อีกต่อไป เขากล่าวด้วยว่า ข้อตกลงปารีสเป็นภาระทางการเงินและเศรษฐกิจของสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงปารีสเป็นการยอมจำนนและเป็นข้อตกลงที่จะไม่เป็นไปในแนวทางนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของเขา นายทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า สหรัฐจะถอนตัวอย่างไร หรือเมื่อไหร่ที่การถอนตัวอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็กล่าวในเชิงว่า น่าจะมีการเจรจาข้อตกลงเรื่องโลกร้อนใหม่ เขากล่าวว่า สหรัฐกำลังจะถอนตัวแต่จะเริ่มการเจรจา และจะดูว่า จะทำให้ข้อตกลงมีความเป็นธรรมกับสหรัฐได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ดีมาก แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
การประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีสครั้งนี้ทำให้พันธมิตรของสหรัฐในยุโรปไม่พอใจอย่างยิ่ง โดยฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี กล่าวในแถลงการณ์ร่วมกันว่า การตัดสินใจของสหรัฐในเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องน่าเสียใจ และระบุว่า ข้อตกลงปารีสไม่สามารถจะเปิดการเจรจาได้ใหม่อีกแล้ว ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครอง ของฝรั่งเศส กล่าวตำหนิการตัดสินใจของนายทรัมป์ พร้อมกับประกาศจะปกป้องข้อตกลงปารีส ที่เขาระบุว่า มีความสำคัญต่ออนาคตของโลก ส่วนนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า นายทรัมป์ตัดสินใจผิดพลาดอย่างยิ่ง นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวแสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจของนายทรัมป์และเรียกร้องให้ดำเนินตามนโยบายด้านภาวะอากาศต่อไปเมื่อรักษาโลกเอาไว้ ด้านอดีตประธานาธิบดีบารัค โอมามา ของสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้บรรลุข้อตกลงปารีสกล่าวว่า สหรัฐกำลังเข้าร่วมกับประเทศเพียงไม่กี่ประเทศที่ปฎิเสธอนาคต และเขายืนยันว่า บริษัทธุรกิจของสหรัฐ ผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรีเมืองใหญ่ของสหรัฐจะเดินหน้าตามข้อตกลงนี้ต่อไป โดยผู้ว่าการรัฐที่เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต เช่น ในนิวยอร์ค แคลิฟอร์เนียและวอชิงตันประกาศแล้วว่า จะดำเนินรอยตามมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามที่ตกลงไว้ในข้อตกลงปารีส.-สำนักข่าวไทย