เคียฟ 2 เม.ย.- ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ของยูเครนประกาศในวันนี้ว่า จะเดินหน้าสู้กับรัสเซียต่อไป ครบหนึ่งปีที่โลกได้เห็นภาพพลเรือนชาวยูเครนถูกสังหารหมู่ในเมืองบูจา หลังจากรัสเซียถอนกำลังออกไปได้ไม่กี่วัน
พล.อ.วาเลรี ซาลุชนี ผบ.สส.ของยูเครนโพสต์ผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า ยูเครนจะเดินหน้าสู้ต่อไปเพื่อเอกราชของประเทศชาติ หลังจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนโพสต์เมื่อวันศุกร์ว่า เมืองบูจาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความโหดร้ายที่เป็นฝีมือของกองกำลังรัสเซีย ซึ่งวิสามัญฆาตกรรมพลเรือนที่ไร้อาวุธ ยูเครนจะไม่มีวันให้อภัยรัสเซียที่ยึดครองเมืองนี้ และจะลงโทษผู้กระทำผิดทุกคน
เอเอฟพีระบุว่า วันที่ 2 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีได้เห็นศพในชุดพลเรือนอย่างน้อย 20 ศพเกลื่อนถนนสายหนึ่งชานเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ บางศพอยู่ในสภาพที่ถูกมัดมือไพล่หลัง ขณะที่รัสเซียถอนกำลังออกจากเมืองนี้ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกกล่าวหาทหารรัสเซียว่า ก่ออาชญากรรมสงคราม โดยอ้างจากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์และภาพที่มีการบันทึกไว้มากมาย อัยการในกรุงเคียฟชี้ว่า ทหารรัสเซียสังหารพลเรือนรอบเมืองบูจาไปมากถึง 1,400 คน และได้ระบุตัวทหารรัสเซียที่เป็นผู้ลงมือได้หลายสิบนาย ขณะที่รัสเซียโต้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉากหลังจากทหารรัสเซียออกไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย