เคียฟ 7 พ.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เตือนว่า รัสเซียอาจโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนมากขึ้น ขณะที่กรุงเคียฟขอให้ประชาชนพิจารณาเดินทางออกจากเมืองหลวงที่ยังคงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจนทำให้เผชิญกับปัญหาด้านพลังงานไฟฟ้า
ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียกำลังระดมสรรพกำลังเพื่อโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน โดยเฉพาะด้านพลังงาน มากขึ้น ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ มีชาวยูเครนกว่า 4.5 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีไฟฟ้าใช้งานแล้ว ขณะที่นายเซอร์เก โควาเลนโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของยาสโน (YASNO) บริษัทผู้จัดหาพลังงานรายใหญ่ของกรุงเคียฟ ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ยูเครนจะเผชิญกับปัญหาขาดดุลด้านพลังงานร้อยละ 32 ในวันนี้
คำเตือนของประธานาธิบดีเซเลนสกีมีขึ้นหลังจากที่นายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาขอให้ประชาชนพิจารณาถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ ซึ่งรวมถึงกรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ที่ทำให้กรุงเคียฟเผชิญกับเหตุไฟดับและขาดแคลนน้ำประปา ทั้งยังระบุว่า ชาวกรุงเคียฟควรตัดสินใจเดินทางไปอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัวที่อาศัยอยู่นอกเมืองหลวงยูเครน ขณะที่นายยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน เผยว่า กองทัพรัสเซียได้ทำลายระบบสายส่งไฟฟ้าเป็นระยะทางยาว 1.5 กิโลเมตร ทำให้เมืองเบอริสลาฟไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน. -สำนักข่าวไทย