มะนิลา 1 พ.ย. – ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจความเสียหายจากเหตุดินถล่มในพื้นที่ทางใต้ของประเทศที่เกิดจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน ‘นัลแก’ (Nalgae) ซึ่งคร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ 110 คน
ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ได้เดินทางลงพื้นที่ประสบภัยจากพายุนัลแกในวันนี้ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์เร่งแจกจ่ายถุงยังชีพให้แก่ประชาชนอย่างรวดเร็วขึ้น และเตรียมรับมือกับพายุโซนร้อนอีก 4 ลูกที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่าจะพัดผ่านฟิลิปปินส์ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งยังระบุว่า ขณะที่เขานั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์เพื่อสำรวจความเสียหาย เขาสังเกตว่ามีเหตุดินถล่มเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในพื้นที่ภูเขาโล้น และสิ่งนี้คือปัญหาที่เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันแก้ไขเพื่อป้องกันเหตุดินถล่ม นอกจากนี้ ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์อพยพผู้ประสบภัยแห่งหนึ่งในจังหวัดมากินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์อีกด้วย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุโซนร้อนนัลแกทำให้มีชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิต 110 คน บาดเจ็บกว่า 100 คน และสูญหาย 33 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมและดินถล่ม ขณะนี้ พายุนัลแกกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ทางใต้ของจีน หลังพัดถล่มพื้นที่เกษตรของฟิลิปปินส์จนเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 833 ล้านบาท) และทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานคิดเป็นมูลค่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 492 ล้านบาท) ทั้งนี้ พายุโซนร้อนนัลแกถือเป็นพายุที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์ในปีนี้ รองจากพายุโซนร้อนเมกี (Megi) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 214 คนในเดือนเมษายนที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย
