แคลิฟอร์เนีย 31 ต.ค. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของเทสลา ระบุว่า ทวิตเตอร์จะปรับเปลี่ยนขั้นตอนยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน หลังจากที่เขาปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์เมื่อวันศุกร์อย่างเป็นทางการ
มัสก์ เผยผ่านบัญชีผู้ใช้งานส่วนตัวของเขาในทวิตเตอร์ ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 112 ล้านคน เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐว่า ทวิตเตอร์จะปรับเปลี่ยนขั้นตอนยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่แพลตฟอร์เมอร์ (Platformer) เว็บไซต์จดหมายข่าวด้านเทคโนโลยี รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดไม่เผยนาม 2 รายที่ระบุว่า ทวิตเตอร์กำลังพิจารณาเรียกเก็บเงินจากบัญชีผู้ใช้งานที่ได้รับการยืนยันตัวตนด้วยเครื่องหมายถูกสีน้ำเงิน หรือบลูมาร์ก (blue mark) ซึ่งเป็นป้ายยืนยันที่ผ่านการตรวจสอบว่าเป็นบัญชีผู้ใช้งานจริงสำหรับบุคคลสาธารณะ โดยที่ผู้ใช้งานเหล่านี้ต้องสมัครเป็นสมาชิก ‘ทวิตเตอร์ บลู’ (Twitter Blue) ซึ่งเป็นบริการจ่ายเงินรายเดือนของทวิตเตอร์เพื่อให้ได้ฟีเจอร์พิเศษโดยจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 190 บาท) ไม่เช่นนั้น ก็จะไม่ได้รับเครื่องหมายถูกสีน้ำเงิน อย่างไรก็ดี มัสก์ยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว และอาจล้มเลิกแนวคิดนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำระบบยืนยันตัวตนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทวิตเตอร์ บลู
ในขณะเดียวกัน เดอะเวิร์จ (The Verge) เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีของสหรัฐ รายงานแหล่งข่าวไม่เผยนามว่า ทวิตเตอร์จะเพิ่มค่าสมัครสมาชิกของทวิตเตอร์ บลู ซึ่งรวมถึงระบบยืนยันตัวตน เพิ่มจากเดิมที่จ่ายเดือนละ 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเดือนละ 19.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 760 บาท) ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ได้เปิดบริการทวิตเตอร์ บลู ในเดือนมิถุนายนปีก่อน ซึ่งถือเป็นบริการแบบจ่ายค่าสมาชิกครั้งแรกของทวิตเตอร์ โดยบริการนี้จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ในทวิตเตอร์ เช่น การแก้ไขข้อความในโพสต์ของทวิตเตอร์ได้. -สำนักข่าวไทย