ยูเครน 8 ต.ค.-สถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงปะทุต่อเนื่อง เช้าวันนี้มีการโจมตีอย่างรุนแรงในเมืองเคอร์คิฟ และเกิดเหตุไฟไหม้รถบรรทุกน้ำมันบนสะพานในคาบสมุทรไครเมีย
เมื่อช่วงรุ่งสางของเช้าวันนี้เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายระลอกในเมืองเคอร์คิฟทางภาคตะวันออกของยูเครน นายกเทศมนตรีเมืองเคอร์คิฟ ระบุว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการถูกขีปนาวุธโจมตีในย่านในใจกลางเมืองทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่สถาบันการแพทย์แห่งหนึ่ง รวมถึงอาคารอีกหลังหนึ่งซึ่งไม่ใช่อาคารที่พักอาศัย อย่างไรก็ตาม มีอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งเกิดไฟไหม้ขึ้นที่บริเวณชั้น 5 ได้รับความเสียหายอย่างราบคาบ แต่เคราะห์ดีที่หญิงชราวัย 80 ปีซึ่งเป็นเจ้าของอาคารดังกล่าวสามารถหลบหนีลงไปอยู่ในชั้นใต้ดินและเอาชีวิตรอดมาได้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการโจมตีในเช้าวันนี้
และในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันระเบิดบนสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างคาบสมุทรไครเมียซึ่งถูกรัสเซียผนวกดินแดนไปเมื่อปี 57 เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันนี้ ตรงกับ 10.00 น. ตามเวลาในบ้านเรา เป็นเหตุให้รถบรรทุกน้ำมัน 7 คันได้รับความเสียหาย รวมถึงรถไฟอีกขบวนหนึ่งที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรไครเมีย แรงระเบิดและเพลิงที่ลุกไหม้ทำให้ตัวสะพานพังถล่มเป็นบางส่วน และต้องปิดการจราจรเป็นการชั่วคราวเพื่อประเมินความเสียหาย สะพานแห่งนี้เป็นทั้งทางรถยนต์และทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างแหลมไครเมียกับดินแดนของรัสเซีย เป็นเส้นทางสำคัญในการส่งกำลังบำรุงให้แก่กองกำลังของรัสเซียที่เข้าไปยึดครองภูมิภาคเคอร์ซอนทางตอนใต้ของยูเครน
หลังเกิดเหตุที่ปรึกษาของผู้นำยูเครนคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นแต่ไม่ได้กล่าวอ้างโดยตรงว่าเป็นฝีมือของฝ่ายยูเครน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกด้วยว่าอะไรที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายจะต้องถูกทำลาย ทุกสิ่งที่ถูกขโมยไปจะต้องกลับคืนไปเป็นของยูเครน และทุกที่ที่ถูกรัสเซียยึดครองก็จะต้องเนรเทศออกไปเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย