กรุงเทพฯ 17 ส.ค.- สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แจ้งปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 10 สตางค์มีผลวันนี้ ทำให้ราคาอยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท หรือปรับขึ้นแผงละ 3 บาท โดยเป็นการปรับครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ระบุเกษตรกรแบกรับต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงต่อเนื่อง อีกทั้งปริมาณการเลี้ยงไก่ไข่ลดลง สวนทางกับความต้องการบริโภคที่ยังสูง
เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัดสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัดแจ้งปรับขึ้นราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเพิ่มอีก 10 สตางค์ต่อฟอง ราคาแนะนำไข่ไก่คละจึงปรับขึ้นจากเดิมฟองละ 3.50 บาท เป็นฟองละ 3.60 บาทเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ส่งผลให้ราคาไข่ไก่แผงละ 30 ฟอง ปรับขึ้นแผงละ 3 บาท การปรับราคาครั้งนี้เป็นการปรับครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม โดยครั้งแรกปรับขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา
นายชาณุวัฒณ์ สิวะโมกข์ รองเลขานุการสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่กล่าวว่า ผู้เลี้ยงไก่ไข่แบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าอาหารเนื่องจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงต่อเนื่อง เกษตรกรรายย่อยนำไก่เข้าเลี้ยงใหม่น้อยลง บางรายงดเลี้ยงเนื่องจากเกรงขาดทุน คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) คำนวณต้นทุนการผลิตไข่ไก่ไตรมาส 1 ปี 2565ที่ฟองละ 2.95 บาท จนถึงขณะนี้ผ่านไตรมาส 2 เข้าสู่ไตรมาส 3 แล้วยังไม่มีการปรับต้นทุนให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
นอกจากนี้ปริมาณไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดยังลดลง เนื่องจากไก่ออกไข่น้อยลง เพราะคุณภาพอาหารไม่ดี ก่อนหน้านี้ผู้เลี้ยงประสบปัญหาทั้งราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกแพงขึ้นและยังขาดแคลนด้วย แม้ภาครัฐจะผ่อนปรนให้นำเข้าข้าวสาลีและข้าวโพดเพิ่ม แต่การผ่อนปรนล่าช้าเกินไป ข้าวสาลีที่นำเข้าเพิ่มจากยูเครนได้แบบคุณภาพไม่ดีมา ที่คุณภาพดีส่งไปประเทศอื่นแล้ว ส่วนข้าวโพดที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านด้อยคุณภาพเช่นกัน คาดว่า ปริมาณไข่ไก่ลดลงจากการที่เกษตรกรรายย่อยเลี้ยงน้อยลงและไก่ออกไข่น้อยลงรวม 30% สวนทางกับความต้องการบริโภคที่ยังสูง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเข้าใจผู้เลี้ยงไก่ไข่ถึงความจำเป็นที่ต้องปรับราคา เพื่อให้ยังสามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ต่อ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีไข่ไก่ไว้บริโภคอย่างเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย