สุราษฎร์ธานี 9 พ.ค.- ลูกชายอดีตนักการเมืองดังสุราษฎร์ผู้ต้องหาในคดีค้าประเวณีเด็ก ย่องมอบตัวเงียบปฏิเสธทุกข้อหา ทำให้คดีนี้เหลืออีกเพียง 4 หมายจับ จากทั้งหมด 42 หมาย
นายแสงโรจน์ หรืออ้วน ลูกชายนายชุมพล อดีตนักการเมืองชื่อดัง จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังถูกออก 5 หมายจับ ในคดีค้าประเวณีเด็กที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเป็นผู้ที่ไปซื้อบริการเด็กหญิง เจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อหา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำของพนักงานสอบสวน เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว
ส่วนนายสุวัฒน์ หรือเอ็ม ครูพี่เลี้ยงที่ทำร้ายและบังคับไม่ให้เด็กบอกชื่อลูกค้าที่มาใช้บริการเด็กหญิง ตำรวจคุมตัวฝากขังที่ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจ กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมเด็กและเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานแรกรับทำร้ายร่างกายหรือลงโทษด้วยวิธีการรุนแรงตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และได้รับการประกันตัวในชั้นศาล
คดีนี้สืบเนื่องจากศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร) เปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ใน จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ 7 พ.ย.2564 และดำเนินคดีผู้ใช้บริการอีก 11 ราย รวม 16 ราย พนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ต้องหาแล้ว แต่ยังมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับค้าประเวณีเพิ่มเติม ตำรวจขยายผลและออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม มีทั้งข้าราชการครู นายแพทย์ ทหาร และตำรวจ โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ เมื่อ 5 พ.ค. และระบุว่ามีข้าราชการระดับสูงระดับรองอธิบดี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ต้องหา
ด้าน พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี หนึ่งในทีม ชุดคลี่คลายคดีนี้ ระบุคดีนี้ได้ออกหมายจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 42 หมาย และจับกุมได้แล้ว 38 หมาย เหลืออีก 4 หมายจับ
รายงานข่าวแจ้งว่ากรณีการสอบสวนพบมีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นผู้ถูกกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 157 ฐานความผิดเป็นพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ความผิดมาตรา 139 ฐานความผิดข่มขืนใจ เจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และข้อหาขัดขวางการสืบสวนการฟ้องร้อง หรือการดำเนินคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อมิให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถ้าเป็นการทำอย่างหนึ่งอย่างใดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พนักงานสอบสวนในคดีได้สอบปากคำพยานบุคคลเสร็จเรียบร้อย 3 ปาก และพยานแวดล้อมอีกจำนวนหนึ่ง รอเพียงพยานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสามารถส่งสำนวนสอบสวนให้ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย