นครศรีธรรมราช 1 พ.ค.-“หลวงพี่กาโตะ” ลาสิกขาแล้ว ช่วงค่ำวานนี้ เพื่อขอรักษาหมู่คณะสงฆ์ไม่ให้เสียหาย ก่อนเดินทางออกจากวัดกลับบ้านเกิดใน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.34 น.วันนี้ (30 เม.ย.65) หลังจากพระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ “หลวงพี่กาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฉาวกรณีมีคลิปเสียงสนทนากับหญิงสาวชื่อ “ตอง” ทำให้เกิดกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก ล่าสุดพระพงศกร หรือ “หลวงพี่กาโตะ” พร้อมคนใกล้ชิดได้เข้าพบพระผู้ใหญ่หลายรูป เพื่อเข้ามนัสการและแสดงความประสงค์ในการตัดสินใจที่จะยุติการครองสมณเพศ
หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังวัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เข้ากราบนมัสการพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะภาค 16 (ธรรมยุติ) พระครูสิริธรรมาภิรัต (ธรรมรัต อริยธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุต) และพระครูอัครธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง (ธรรมยุติ) เพื่อแสดงเจตนาในการลาสิกขา โดยพระครูสิริธรรมาภิรัต (ธรรมรัต อริยธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุต)
โดยคณะสงฆ์ได้มีการทำบันทึกถ้อยคำให้กับ “หลวงพี่กาโตะ” ในการแสดงเจตนาลาสิกขาโดยที่ไม่มีใครบีบบังคับแต่อย่างใด พร้อมทั้งมีพระสงฆ์ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามในหนังสือตามขั้นตอน หลังจากนั้น “หลวงพี่กาโตะ” ได้กราบขอขมาพระเถระที่มาเป็นพยานในการลาสิกขา
พระครูอัครธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง ซึ่งเป็นพระอุปัชณาจารย์ของ “หลวงพี่กาโตะ” ได้กล่าวให้โอวาทพร้อมทั้งระบุการลาสิกขาเป็นไปด้วยเจตนาของ “หลวงพี่กาโตะ” เอง เพื่อรักษาหมู่คณะสงฆ์ ทางออกนี้เป็นทางที่สง่าผ่าเผยที่สุด เป็นการปกป้องวงการสงฆ์ รักษาวงการสงฆ์ที่สั่นคลอนทั่วประเทศ นี้ถือว่าเป็นทางออกที่ดีไม่มีใครรังเกียจ โดยส่วนตัวในฐานะอุปัชฌาชื่นชอบ อะไรหลายอย่างที่ได้ปฏิบัติมา เมื่อมาได้แค่นี้ก็คือแค่นี้ไปทำบุญได้
ขณะที่ “หลวงพี่กาโตะ” ได้ระบุว่า การบวชนั้นได้บวชเพื่อโยมพ่อโยมแม่ หวังพึ่งพาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพื่อให้โยมแม่ เป็นเพียงพระนวกะที่ยังอ่อนหัดในพระธรรมวินัยอย่างมาก เพื่อลบอุปสรรคนี้จึงตัดสินใจลาสิกขา และขอโอกาสขอขมาพระอาจารย์ทุกรูป หลังจากนั้นได้เข้าสู่พิธีการลาสิกขาเปล่งวาจาเป็นภาษาบาลีตามลำดับ โดยมีพระสงฆ์ที่เป็นสักขีพยานเป็นผู้ประกอบพิธีลาสิกขา ทำการปลดผ้าสังฆาฎิก่อนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นฆราวาส
หลังเป็นฆราวาสแล้ว “หลวงพี่กาโตะ” หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ได้รับน้ำมนต์จากพระอุปัชฌา ก่อนจะเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาใน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ทันที ส่วนการดำเนินการทางวินัยสงฆ์นั้นเป็นอันยุติ และหลังจากนี้หากมีกรณีที่เกี่ยวข้องและเข้าข่ายละเมิด อาจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้.-สำนักข่าวไทย