สธ.9 ธ.ค.-อธิบดีกรมวิทย์ฯ เผยพบผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 3 ราย ส่วนรายที่ 4 กำลังรอผลยืนยัน เป็นเจ้าหน้าที่ UN เดินทางกลับจากดีอาร์คองโก พร้อมระบุโอไมครอนยังไม่กลายพันธุ์ ยังสามารถตรวจด้วย RT-PCR ได้เช่นเดิม
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่า ล่าสุดมีชายไทยอายุ 41 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ UN เดินทางกลับมาจากประเทศดีอาร์คองโก กำลังรอผลยืนยันว่าติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ หากผลแล็บยืนยัน จะถือเป็นรายที่ 4 ของไทย ต่อจากชายชาวอเมริกันและล่ามหญิง 2 คนที่เดินทางมาจากไนจีเรีย โดยข้อมูลพบว่าเจ้าหน้าที่ UN รายนี้ รับวัคซีนแอสตราเซเนกาครบทั้ง 2 โดส เดินทางเข้าไทย เข้าระบบ Test and go เมื่อตรวจพบ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเข้าสู่ระบบการรักษา และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคว่ามีบุคคลใดใกล้ชิดบ้าง พร้อมยืนยันว่าการตรวจ ATK ยังสามารถพบโปรตีนสายพันธุ์โอไมครอนได้
ส่วนกรณีที่ออสเตรเลียมีรายงานว่าสายพันธุ์โอไมครอนมีการกลายพันธุ์หลบการตรวจหาเชื้อนั้น อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า รหัสพันธุกรรมโอไมครอนเปลี่ยนจาก BA1 เป็น BA2 แต่ยังคงตรวจพบ ไม่มีการซ่อนตัว ยืนยันว่าการตรวจด้วย RT-PCR ยังเป็นวิธีที่ตรวจหาเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้
“ขอให้ประชาชนอย่ากังวล หากดูตัวเลขทั่วโลก ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์โอไมครอน และในไทยพบ 4 ราย จาก 1649 ราย ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยมาก” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในช่วงนี้ที่อาจกระทบกับโควิด-19 ว่า ในช่วงเดือน ธันวาคมของทุกปี ไทยต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยฝุ่น PM 2.5 จะทำให้เยื่อบุระบบทางเดินหายใจอักเสบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดมากขึ้น วันนี้ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานพบใน 5 พื้นที่ ได้แก่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร พิจิตรและพิษณุโลก ดังนั้นขอให้ประชาชนปฏิบัติตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข สวมหน้ากากตลอดเวลา และควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ช่วยกันลดการเผา ไม่ใช้รถควันดำ ร่วมกันปลูกต้นไม้ .-สำนักข่าวไทย